กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ กระทรวงพม. ชื่นชม"ดีแทค เน็ตทำกิน" ช่วยสร้างโอกาสให้คนพิการได้องค์ความรู้ใหม่ๆเพิ่มขึ้นมาเพื่อนำไปประกอบอาชีพในยุคดิจิทัล ทั้งสอนถ่ายภาพให้ได้องค์ประกอบถูกต้อง ทำเนื้อหาให้สอดคล้องกับการขายสินค้า และใช้สื่อโซเชียลมีเดียต่างๆมาพัฒนาหาช่องทางไปสู่ลูกค้า เตรียมต่อยอดโครงการดีๆต่อไปในอนาคต
นางสาวสราญภัทร อนุมัติราชกิจ อธิบดีกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พม. เข้าเยี่ยมและพบปะผู้เข้าร่วมอบรมการทำตลาดออนไลน์กับ"ดีแทค เน็ตทำกิน" กลุ่มอาชีพคนพิการ ณ ศูนย์พัฒนาศักยภาพและอาชีพคนพิการหยาดฝน จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2565 ที่ผ่านมา พร้อมกล่าวว่า ปัจจุบัน มีคนพิการในประเทศไทยที่ออกบัตรประจำตัวคนพิการ กับกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ อยู่จำนวน 2,107,005 คน (ข้อมูล ณ วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2565) คิดเป็นร้อยละ 3.18 ของประชากรทั่วประเทศ ซึ่งในจำนวนนี้ แบ่งประเภทความพิการจะเห็นว่า ประเภทความพิการที่มากที่สุด คือ ทางการเคลื่อนไหวหรือทางร่างกาย จำนวน 1,054,786 คน คิดเป็นร้อยละ 50.17 ลำดับรองลงมาคือ ทางการได้ยินหรือสื่อความหมาย จำนวน 393,027 คน ร้อยละ 18.69 และทางการเห็น จำนวน 187,546 คน ร้อยละ 8.92 ตามลำดับ นอกจากนี้ เมื่อมาดูตามช่วงอายุ จะพบว่า มีคนพิการที่อยู่ในช่วงวัยแรงงาน (อายุ 15 – 59 ปี) จำนวน 855,816 คน และเป็นคนพิการที่เป็นผู้สูงอายุ อีกจำนวนกว่า 1,168,165 คน อีกด้วย
ซึ่งกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) โดยกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ (พก.) ในฐานะเป็นหน่วยงานหลักที่ดูแลคนพิการทั่วประเทศ มีภารกิจหลักในการขับเคลื่อนงานด้านการส่งเสริมสิทธิและสวัสดิการของคนพิการ การสร้างโอกาสและความเสมอภาคแก่คนพิการ ซึ่งคนพิการถือเป็นปัจจัยสำคัญต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ จึงจำเป็นที่จะต้องได้รับโอกาส สร้างเครื่องมือ และสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อคนพิการทุกประเภทความพิการ และในปัจจุบันที่ประเทศไทยเข้าสู่ยุคดิจิทัล อินเทอร์เน็ตถือเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยเปิดโอกาสการเข้าถึงข้อมูล การติดต่อสื่อสาร และเพิ่มช่องทางการประกอบอาชีพ โดยเฉพาะการทำธุรกิจค้าขายออนไลน์ ให้เข้าถึงลูกค้าและตลาดโดยตรงได้สะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ทำให้คนพิการมีอาชีพ มีรายได้ และสามารถใช้ชีวิตได้เหมือนอย่างคนปกติ รวมทั้งจะส่งผลให้สามารถดำเนินชีวิตร่วมกับครอบครัวได้อย่างยั่งยืนและเป็นปกติสุข
นางสาวสราญภัทร กล่าวด้วยว่า ความร่วมมือระหว่าง กระทรวง พม. โดย พก. และ ดีแทค นับเป็นการบูรณาการความร่วมมือเพื่อการมีงานทำอย่างยั่งยืนของคนพิการ ด้านการพัฒนาทักษะทางดิจิทัลที่คนพิการจะได้รับประโยชน์ในการใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่ในยุคดิจิทัล ซึ่งสอดคล้องกับภารกิจของ พก. และพร้อมยินดีให้การสนับสนุนการดำเนินโครงการดังกล่าว ให้ประสบผลสำเร็จ และประโยชน์ตกถึงมือของคนพิการและผู้ดูแลคนพิการ เพื่อให้คนพิการดำรงชีวิตได้อย่างมีศักดิ์ศรีและมีคุณค่าต่อไป
"เราได้ร่วมมือกับภาคเอกชน อย่างเช่น ดีแทคในครั้งนี้เพื่อให้คนพิการมีโอกาสได้องค์ความรู้ใหม่ๆไปประกอบอาชีพ จากการได้พูดคุยกันถึงโครงการ "ดีแทค เน็ตทำกิน"นี้ทางพม.มีความสนใจจึงได้เรียกให้ทางดีแทคเข้ามาคุยกัน ซึ่งเกิดโครงการดีๆแบบนี้ขึ้นมา ทางดีแทคเองนอกจากได้ช่วยเหลือกลุ่มคนพิการแล้วยังได้ทำกิจกรรมCSR ไปในตัวด้วยดังนั้นความต้องการของพม.เรากับดีแทคได้มาชนกันเกิดประโยชน์ขึ้นมาในที่สุด ในขณะเดียวกันหลังจากการเกิดโควิด-19 ขึ้นมาอาชีพต่างๆได้เปลี่ยนไปบางอาชีพหายไปกับโควิด-19 อาทิเช่น แอร์โฮสเตสในช่วงที่เครื่องบินหยุดบิน เป็นต้น โดยคนไม่พิการยังประสบปัญหากับอาชีพที่เปลี่ยนไปคนพิการเองยิ่งประสบปัญหากับอาชีพมากกว่า การตลาดออนไลน์จึงเข้ามามีส่วนสำคัญในการช่วยด้านอาชีพ คนที่มีผลิตภัณฑ์อยู่แล้วแต่ไม่มีช่องทางการจำหน่าย "ดีแทค เน็ตทำกิน"ก็เข้ามาเติมเต็มให้ ทั้งการสอนถ่ายภาพจัดองค์ประกอบของสินค้าให้น่าซื้อ เรื่องของคอนเทนท์เนื้อหาในการสื่อสารด้านสินค้า การใช้โซเชียลมีเดียต่างๆ รวมถึงแอพพลิเคชั่นเพื่อทำตลาดเป็นช่องทางไปสู่ผู้ซื้อ รวมถึงการปักหมุดที่ตั้งแหล่งผลิตสินค้าให้ลูกค้าเข้ามาหาซื้อสินค้าต่างๆ เป็นต้น นับว่าเป็นความร่วมมือที่ดีมากระหว่างพม.และดีแทคน่าจะเกิดโครงการเช่นนี้ไปอย่างต่อเนื่อง" อธิบดีกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พม. กล่าว.
ด้านนายกิตติพงษ์ ใหม่คำน้อย ผู้เข้าร่วมอบรมการทำตลาดออนไลน์กับดีแทค เน็ตทำกิน กลุ่มอาชีพคนพิการ ณ ศูนย์พัฒนาศักยภาพและอาชีพคนพิการหยาดฝน จังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ตลอดช่วงเวลาที่อบรมการตลาดออนไลน์กับดีแทค เน็ตทำกิน ได้ประโยชน์มาก เรามีโทรศัพท์มือถือ มีสื่อโซเชียลมีเดีย ทั้งเฟซบุ๊ก ไอจี ไลน์ เราก็สามารถขายสินค้าออนไลน์ได้ สร้างอาชีพของเราได้ และความรู้ต่าง ๆ ที่เราได้มาก็นำมาปรับใช้ได้ ทั้งการถ่ายรูป การเปิดหน้าร้านออนไลน์ การปักหมุดด้วยกูเกิล แมพ ให้ลูกค้ามาร้านเราถูก ที่สำคัญการทำตลาดออนไลน์ทำให้เราสามารถเปลี่ยนจากผู้ซื้อมาเป็นผู้ขายได้