ตามหา “เจดีย์อรหันตา” ของครูบาเจ้าศรีวิชัย ต่อยอดจากวัดพระธาตุสามดวง

ข่าวศิลปวัฒนธรรม , 3 ก.ค. 2565, 22:57

ตามหา “เจดีย์อรหันตา” ของครูบาเจ้าศรีวิชัย ต่อยอดจากวัดพระธาตุสามดวง

          เมื่อวันที่ 11 มิถุนายนที่ผ่านมานี้ เป็นวันครบรอบ 144 ปีชาตกาลของครูบาเจ้าศรีวิชัย ดิฉันและเครือข่าย “กลุ่มเมืองพานศึกษา” ได้ร่วมกันจัดกิจกรรม “ตามรอยวัดของครูบาเจ้าศรีวิชัยในเขตอำเภอพาน” จังหวัดเชียงราย ผ่านพ้นไปท่ามกลางความร่วมไม้ร่วมมือจากฝ่ายคณะสงฆ์ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ปราชญ์ชาวบ้าน และศรัทธาประชาชนในพื้นที่ของวัดทั้งสามแห่ง ได้แก่ วัดเจริญเมือง วัดพระธาตุจอมแว่ และวัดป่าสักเหนือ เป็นอย่างดี

          ควันหลงจากเวทีเสวนาที่วัดเจริญเมือง คือการที่ดิฉันได้ตั้งคำถามต่อชาวเมืองพานว่า ที่วัดพระธาตุสามดวงนั้น เจดีย์แต่ละดวงน่าจะหมายถึง อริยมรรค 3 ขั้น โดยเจดีย์องค์ล่างสุดควรหมายถึงสัญลักษณ์แห่งการบรรลุธรรมขั้นโสดาบัน เจดีย์องค์กลางควรหมายถึงสัญลักษณ์แห่งการบรรลุธรรมขั้นสกิทาคามี และเจดีย์องค์บนสุดนั้น ควรหมายถึงสัญลักษณ์แห่งการบรรลุธรรมขั้นอนาคามี เหตุที่แผ่นจารึกของเจดีย์องค์บนสุดมีการเขียนชื่อเจดีย์ว่า “อนาคา” 

          มีคำถามตามมาว่า เจดีย์ทั้งสามดวงที่ครูบาเจ้าศรีวิชัยสร้างไว้บนม่อนขนาดย่อมๆ นี้ ยังไม่น่าจะเสร็จสมบูรณ์ใช่หรือไม่ กล่าวคือยังขาดองค์สุดท้ายอยู่อีกดวงหนึ่งที่ควรตั้งอยู่ชั้นบนสุด และควรหมายถึง “เจดีย์อรหันตา”?

ความเป็นมาของพระธาตุสามดวง

          พระธาตุสามดวง ตั้งยู่ที่บ้านศาลา (ศาลาเหมืองหิน) หมู่ที่ 14 และบ้านป่าหุ่ง ตำบลป่าหุ่ง อำเภอพาน จังหวัดเชียงราย โดยการเรียกชื่อรวมว่า “วัดพระธาตุสามดวง” นี้เป็นการมาตั้งชื่อภายหลัง ชาวเมืองพานเคยเรียกอีกนามว่า “พระธาตุสามพี่น้อง” 

            ส่วนเอกสารของบัญชีถวายพระราชกุศลของครูบาเจ้าศรีวิชัยที่ทำถวายไปยัง พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาทิตย์ทิพอาภา ประธานคณะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์เมื่อปี 2477 นั้น ระบุชื่อเฉพาะของพระธาตุทั้งสามดวงนี้โดยแยกเป็นองค์ๆ ว่า “รุกขมูล – ป่าซางเรือง – ทุตังคะวัด” (ธุดงควัตร) สอดคล้องกับหลักฐานที่ปรากฏทั้งในแผ่นจารึกปูนที่โคนฐานพระธาตุแต่ละดวง ซึ่งเราพบว่า พระธาตุองค์ที่ 1 แผ่นจารึกเขียนชื่อว่า “พระธาตุรุกขมูล” อยู่ในเขตพื้นที่บ้านป่าหุ่ง พระธาตุองค์ที่ 2 แผ่นจารึกระบุชื่อว่า “พระธาตุป่าซางเรือง” และพระธาตุองค์ที่ 3 ชื่อว่า “พระธาตุทุตังควัตร” หรือ “พระธาตุอนาคา” อยู่ในเขตพื้นที่บ้านศาลา พระธาตุองค์ที่ 1 ห่างจากพระธาตุองค์ที่ 2 ประมาณ 400 เมตร พระธาตุองค์ที่ 2 ห่างจากพระธาตุองค์ที่ 3 ที่อยู่สูงสุดประมาณ 200 เมตร แต่ละองค์ตั้งห่างกันจากม่อนดอยหรือเขาที่เตี้ยสุดไปสู่สูงสุด 

           มีตำนานบอกเล่ากล่าวถึงผู้สร้างเป็นพระภิกษุ 3 พี่น้อง พระภิกษุผู้เป็นพี่ใหญ่ได้สร้างพระธาตุดวงแรก พระภิกษุผู้เป็นพี่คนกลางได้สร้างพระธาตุดวงที่ 2 และพระภิกษุผู้น้องสุดท้องสร้างพระธาตุดวงที่ 3 พระธาตุทั้ง 3 องค์บรรจุพระธาตุของพระอรหันต์ 3 พี่น้องที่เคยมาบำเพ็ญบารมีประจำอยู่ทั้ง 3 แห่ง กลายเป็นพระธาตุ 3 ดวง 

          อนึ่ง มีตำนานมุขปาฐะว่าบริเวณพื้นที่นี้เคยเป็นที่ตั้งกองทัพของพระญามังราย กษัตริย์แคว้นโยนกองค์ที่ 25 ราชวงศ์ลวจังกราช และปฐมกษัตริย์ล้านนา ราชวงศ์มังราย โดยเป็นสมรภูมิรบ ซึ่งยังเหลือสมบัติล้ำค่าจำนวนมหาศาล ซุกซ่อนอยู่ มีผู้คนไปขุดแก้วแหวนเงินทอง ศัตราวุธยกใส่กระเป๋าหลายใบ ทำให้ชาวบ้านเรียกพื้นที่ป่ารายล้อมวัดพระธาตุสามดวงว่า ดงกระเป๋า

          พระธาตุสามดวงถือเป็นพระธาตุสำคัญ เป็นพระธาตุ “จอมเกศเกล้า” ของชาวตำบลป่าหุ่ง เชื่อว่าสร้างร่วมสมัยกับพระธาตุจอมแว่ เมืองพาน บริเวณนี้เคยพบเครื่องมือหิน เศียรพระพุทธรูปหินทราย เสาหินทรายขนาดใหญ่ ต่อมาพระธาตุทั้ง 3 องค์ได้ชำรุดทรุดโทรมไปตามกาลเวลา ได้มีการบูรณะช่วง พ.ศ. 2474 - 2476 แล้วเสร็จใน พ.ศ. 2476 โดยครูบาเจ้าศรีวิชัยหรือชาวบ้านตำบลป่าหุ่งเรียกว่า “ครูบาศีลธรรม” รับบูรณะ มอบหมายให้ครูบากัญจนะ และครูบาไชยา ลูกศิษย์รูปสำคัญที่มีฝีมือทางการช่างเป็นสล่าควบคุมการก่อสร้าง ในการบูรณะครั้งนี้มีชาวบ้านหมู่บ้านต่างๆ ภายในตำบลป่าหุ่ง และที่ต่างๆ มาร่วมช่วยทั้งออกแรงกายและร่วมทำบุญด้วยทรัพย์สิ่งของค่าใช้จ่ายในการบูรณะครั้งนี้

          พระธาตุรุกขมูลองค์แรกชั้นล่างสุดใช้เงินจำนวน 340 รูเปีย พระธาตุป่าซางเรืององค์กลางใช้เงินจำนวน 475 รูเปีย 60 สตางค์ พระธาตุอนาคา หรือพระธาตุทุตังควัตร ใช้เงินจำนวน 457 รูเปีย 26 สตางค์

          ช่วงก่อนที่ครูบาเจ้าศรีวิชัยจะมาบ้านป่าหุ่งนั้น ท่านได้เดินทางกลับจากวัดพระธาตุดอยตุง จังหวัดเชียงราย เพื่อเตรียมจะไปสร้างถนนขึ้นวัดพระธาตุดอยสุเทพ จังหวัดเชียงใหม่ เผอิญผ่านมายังวัดร้างพระธาตุสามดวง ได้พักจำวัดที่ถ้ำผาโขง (บ้านปางเกาะทราย ตำบลป่าหุ่ง อำเภอพาน) 2 คืน ครูบาเจ้าศรีวิชัยจึงดำริมอบหมายให้ลูกศิษย์ผู้มีฝีมือทางช่างเป็นผู้นำทำการบูรณะพระธาตุ แล้วครูบาเจ้าศรีวิชัยก็เดินทางไปสร้างถนนขึ้นวัดพระธาตุดอยสุเทพ โดยมีสามเณรจันทร์ (พ่อน้อยจันทร์ สุขเจริญ) บ้านเหมืองหลวง เดินทางตามครูบาเจ้าศรีวิชัยไปด้วยเป็นเวลา 15 วันก็กลับมาวัด

          มีข้อน่าสังเกตว่า หลังจากที่ครูบาเจ้าศรีวิชัยบูรณะพระธาตุสามดวงแล้ว ก็เดินทางไปสร้างทางขึ้นดอยสุเทพต่อทันที จึงไม่แน่ใจนักว่าแนวคิดเรื่องการใช้สัญลักษณ์ของวัด 4 แห่ง ซึ่งหมายถึง 4 ขั้นอริยมรรค ของทางขึ้นดอยสุเทพนั้น จะถูกนำมาใช้กับแนวทางการสร้างวัดพระธาตุสามดวงตามขั้นต่างๆ บนภูเขาด้วยหรือไม่

          เราทราบกันดีว่า แนวคิดของการสร้างทางขึ้นดอยสุเทพของครูบาเจ้าศรีวิชัยนั้น มีการตั้งชื่อของวัดตามรายทางจำนวน 4 แห่ง ด้วยระยะทาง 12 กิโลเมตรเศษ จากต้นทางคือน้ำตกห้วยแก้วไปถึงเชิงพระธาตุดอยสุเทพ โดยวัดโสดาบันอยู่ล่างสุด ใช้เป็นศูนย์อำนวยการสร้างทางขึ้นดอยสุเทพ วัดนี้มีความหมายว่า ผู้มีกระแสจิตเบื้องต้นแห่งการเข้าสู่นิพพาน

            วัดที่แทนสัญลักษณ์ของอริยมรรคขั้นแรกสุด เดิมชื่อ “วัดโสดาบัน” ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น “วัดศรีโสดา” การเปลี่ยนชื่อวัดน่าจะอยู่ระหว่างช่วง พ.ศ. 2479 - 2509 ในยุคที่ครูบาเสาร์ นารโท เป็นเจ้าอาวาส สาเหตุที่เติม “ศรี” เข้าใจว่ามาจากชื่อของครูบาเจ้าศรีวิชัย เพื่อเป็นอนุสรณ์ยกย่องเชิดชู น้อมรำลึกคุณูปการที่ท่านสร้างวัดนี้ขึ้นมา 

          มูลเหตุที่ครูบาเจ้าศรีวิชัยได้สร้างวัดนี้ขึ้นมา ก็เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของสถานที่รองรับคณะศรัทธาที่มาร่วมก่อสร้างทางขึ้นพระธาตุดอยสุเทพ บริเวณนี้ในอดีตถือว่าเป็นสถานที่เก็บอุปกรณ์ก่อสร้างทุกอย่าง ไม่ว่าจอบ เสียม มีด เก็บเสบียงอาหารแห้ง อาหารสด เป็นโรงครัว โรงทาน จุดติดต่อประสานงาน ศูนย์บัญชาการ การที่ครูบาเจ้าศรีวิชัยจำพรรษา ณ สถานที่แห่งนี้น่าจะเป็นกุโลบายให้ญาติโยมที่มาช่วยสร้างทางเกิดพลังใจอันมหาศาล 

          ผ่านวัดศรีโสดาเชิงดอยสุเทพประมาณ 4.5 กิโลเมตร พบวัดจุดที่สองชื่อ "วัดผาลาด (สกทาคามี)" คำว่า “สกิทาคามี” หรือ “สกทาคามี” นั้นเป็นชื่อที่ครูบาเจ้าศรีวิชัยตั้งขึ้น ส่วนชื่อวัดผาลาดเป็นชื่อดั้งเดิมมีมาก่อนแล้ว โดยเชื่อมโยงกับตำนานพระเจ้าเลียบโลก ส่วนผู้คนในพื้นที่เล่าว่า เดิมเรียกวัดนี้ว่า “ผะเลิด” แปลว่า “ลื่นล้ม” เนื่องจากคนและช้างที่เดินตามธารน้ำตกนั้นพากันลื่นล้ม จึงชื่อวัดผะเลิด ต่อมาเพี้ยนเสียงเป็นวัดผาลาด 

           บริเวณวัดผาลาดสกทาคามีนั้น เดิมใช้เป็นสถานที่หยุดพักระหว่างการเดินทาง เพราะมีน้ำตกไหลรินตลอดทั้งปี จึงมีการสร้างบ่อน้ำซับไว้ใกล้ๆ ธารน้ำตก เพื่อใช้ในการอุปโภคบริโภค และมีศาลาสำหรับพักแรม ต่อมามีการสร้างเจดีย์และวิหาร รวมถึงพระพุทธรูปขึ้น เพื่อใช้เป็นที่สักการบูชาสำหรับผู้แสวงบุญ                

          ครูบาเจ้าศรีวิชัยเป็นประธานในการบูรณะวัดผาลาดและตั้งชื่อให้ใหม่เป็นสัญลักษณ์แห่งเส้นทางของอริยบุคคลขั้นที่ 2 คือ พระสกิทาคามี โดยมอบหมายให้ครูบาเถิ้ม โสภโณ (พระครูโสภาณุมหาเถระ) วัดแสนฝาง และรักษาการเจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอยสุเทพในสมัยนั้น ร่วมกับครูบาสิทธิ วัดท่าสะต๋อย (ตามจารึกที่เสาวิหาร) เป็นผู้อำนวยการบูรณะ ศรัทธาใหญ่ที่ช่วยอุปถัมภ์ครูบาเถิ้ม คือหลวงโยนการพิจิตร หรือนายปันโหย่ ต้นตระกูล อุปโยคิน พ่อค้าไม้ชาวพม่า ทำให้เจดีย์ วิหาร พระพุทธรูป ภายในวัดสกทาคามี จึงเป็นไปตามแบบศิลปะพม่า 

          อริยมรรคขั้นที่ 3 คือวัดอนาคามี ปัจจุบันก่อตั้งเป็นพุทธอุทยานอนาคามี ห่างจากวัดผาลาดประมาณ 3.5 กิโลเมตร ห่างจากวัดพระธาตุดอยสุเทพประมาณ 4.5 กิโลเมตร ชื่อวัดอนาคามีนั้น เป็นชื่อที่ครูบาเจ้าศรีวิชัยตั้งขึ้น อย่างไรก็ตาม วัดนี้เป็นวัดเก่าแก่มีมาก่อนสมัยครูบาเจ้าศรีวิชัยแล้ว ตั้งบนเส้นทางเดินโบราณซึ่งชาวล้านนาใช้เดินทางขึ้นไปนมัสการพระธาตุดอยสุเทพ เป็นเส้นทางเดียวกันกับที่พระญากือนาใช้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุจากวัดสวนดอกขึ้นไปประดิษฐานบนดอยสุเทพ ตามที่ปรากฏเรื่องราวในตำนานวัดสวนดอก เช่นเดียวกับวัดผาลาด (สกทาคามี)

           ข้อสันนิษฐานเกี่ยวกับที่ตั้งของวัดอนาคามีในปัจจุบันมี 2 ส่วน บ้างก็ว่าน่าจะเป็นวัดร้างที่อยู่ในสถานีควบคุมไฟป่าจังหวัดเชียงใหม่ (ภูพิงค์) บ้างก็ว่าน่าจะเป็นวัดร้างบริเวณหอดูดาวสิรินธรที่เรียกกันว่า “ม่อนพญาหงส์”

           เส้นทางอริยมรรคขั้นสุดท้าย คือการบรรลุพระอรหันต์ ครูบาเจ้าศรีวิชัยกำหนดให้วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร เป็นสัญลักษณ์ของวัดอรหันตา วัดแห่งนี้สร้างโดยพระญากือนาตั้งแต่ พ.ศ. 1916 บรรจุพระบรมสารีริกธาตุซึ่งพระสุมนเถระอัญเชิญมาจากเมืองศรีสัชนาไลย (อาณาจักรสุโขทัย) สร้างขึ้นในระยะเวลาไล่เลี่ยหลังจากการสร้างพระธาตุวัดสวนดอกเล็กน้อย พ.ศ. 2463 ครูบาเจ้าศรีวิชัยเดินทางมาบูรณปฏิสังขรณ์พระธาตุดอยสุเทพ ใช้เงิน 221 รูเปีย และบูรณะพระอุโบสถ ดังคำคร่าวของพระภิกษุท้าวสุนทรพจนกิจพรรณนาว่า

          “เงินงามสวยๆ ช่วยบำรุง  สุเทพส้อม (ซ่อม) สร้าง  ปฏิสังขรณ์ สืบยาวสาวกว้าง ให้เป็นคองทางสู่ฟ้า สองร้อยซาวเอ็ด เงินงามบ่ช้า พระท่านเจ้าทานา”

          เห็นได้ว่าครูบาเจ้าศรีวิชัยเคยขึ้นมานมัสการและบูรณปฏิสังขรณ์องค์พระธาตุดอยสุเทพแล้วตั้งแต่ปี 2463 ก่อนที่จะสร้างถนนขึ้นดอยสุเทพระหว่างปี 2477-2478 โดยมีความปรารถนาว่าการบูรณะพระธาตุดอยสุเทพครั้งนี้ ก็เพื่อมุ่งหวังให้เป็นสัญลักษณ์แห่ง “เส้นทางการนำบุญขึ้นสู่สวรรค์” ตามที่ท่านใช้คำว่า “เป็นค(ล)อง (ครรลอง) ทางสู่ฟ้า” 

          ย้อนกลับมามองวัดพระธาตุสามดวงอีกครั้ง การค้นพบคำว่า “อนาคา” ในจารึกหน้าฐานพระธาตุ “ทุตังควัตร” ดวงบนสุดทำให้ดิฉันตั้งคำถามว่า เป็นไปได้หรือไม่ว่าควรมี “พระธาตุอีกองค์หนึ่ง” ที่ควรตั้งอยู่ในระดับที่สูงกว่าพระธาตุทั้งสามดวงนี้ อาจอยู่ในภูเขาลูกเดียวกัน ที่ครูบาเจ้าศรีวิชัยยังสร้างไม่เสร็จ หรือยังไม่ทันได้วางรากฐานใดๆ เนื่องจากต้องรีบไปสร้างถนนขึ้นดอยสุเทพเสียก่อน หรืออาจจะหมายถึง “พระธาตุสำคัญองค์อื่น” ที่มีอยู่แล้วในเมืองพานซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลเกินไปนัก อาทิเช่น อาจหมายถึง “พระธาตุจอมแจ้ง” (ตั้งอยู่ด้านใต้พระธาตุสามดวง) หรือ “พระธาตุจอมแว่” (ตั้งอยู่ด้านทิศตะวันออกของพระธาตุสามดวง) ก็เป็นได้ ซึ่งเรื่องนี้ยังต้องช่วยกันสืบค้นกันอีกยาว

…..เรียบเรียงโดย….ดร.เพ็ญสุภา  สุขคตะ…..

 

3

ข่าวอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

เอชดีเจมอเตอร์ ฮุนไดเชียงใหม่ ส่งมอบรถ Hyundai IONIQ 5 Exclusive ให้ลูกค้าคนพิเศษ พร้อมขอบ...

เอชดีเจมอเตอร์ ฮุนไดเชียงใหม่ โดยที่ปรึกษาการขาย ร่วมแสดงความยินดีพร้อมส่งมอบรถใหม่ Hyundai IONIQ 5 Exclusive สีทอง ให้กับ คุณศุภิสรา รัศมีพลังสันติ พร้อมขอขอบคุณที่ให้เกียรติมาเป็นครอบครัวฮุนได ...


  • ข่าวยานยนต์
  • |
  • 25 พ.ย. 2568, 13:27
  • |
  • 333

มอบรถ Hyundai CRETA ALPHA สีดำ

เอชดีเจมอเตอร์ ฮุนไดเชียงใหม่ โดยที่ปรึกษาการขาย ร่วมแสดงความยินดีพร้อมส่งมอบรถใหม่  ให้กับ คุณศราวุธ บัวล้อม Hyundai CRETA ALPHA สีดำ  ขอขอบคุณที่ให้เกียรติมาเป็นครอบครัวฮุนได สอบถามรายละเอ...


  • ข่าวยานยนต์
  • |
  • 22 พ.ย. 2568, 14:29
  • |
  • 178

ปลายปีนี้พบงานแสดงรถยนต์ทั้งที่เซ็นทรัลเชียงใหม่เฟสและที่แอร์พอร์ต

งานแรก 18-24 พฤศจิกายน 2568 งานนี้จัดโดย MG ไทยแลนด์งาน MG City DRIVEมีรถยนต์ MG มาให้แฟนๆ ได้ทดลองขับครบทุกรุ่นใครอยากได้รุ่นไหนก็แจ้งทีมงานขอทดลองขับได้เลยงานนี้สำนักงานใหญ่มาเองเพื่อยอดขายให้ได้สูง...


  • ข่าวยานยนต์
  • |
  • 20 พ.ย. 2568, 19:05
  • |
  • 359

มิตซูแสงชัยจัดหนัก งาน Exclusive Test Drive "XForce Garden" มหาสุขฟาร์ม Mahasuk Farm

พิเศษเฉพาะงาน Exclusive Test Drive "XForce Garden"• จองในงานทุกรุ่น รับทันที กระเป๋า Gym bag ของแท้ จากแบรนด์ Mitsubishi• รับข้อเสนอพิเศษแคมเปญเดียวกับ Motor Expo 2025แล้วพบกันได้ที่งาน Exclusive Test...


  • ข่าวยานยนต์
  • |
  • 18 พ.ย. 2568, 19:36
  • |
  • 164

HyundHyundai Deal SEOUL Good with The all-new SANTA FE Hybrid ​ Motor Expo Campaign ที่สุด...

HyundHyundai Deal SEOUL Good with The all-new SANTA FE Hybrid ​Motor Expo Campaign ที่สุดแห่งดีล ฟีลเกาหลีOpen for More Utility อีกขั้นของความสะดวกสบายไปกับ The all-new SANTA FE Hybrid พร้อมที่วางขวดน...


  • ข่าวยานยนต์
  • |
  • 15 พ.ย. 2568, 12:16
  • |
  • 440

ส่งท้ายปี...ด้วยโปรแรงจัดหนัก‼️ กับโตโยต้าล้านนา ที่งาน 𝐌𝐎𝐓𝐎𝐑 𝐒𝐀𝐋𝐄 𝐎𝐅 𝐓𝐇𝐄 𝐘𝐄𝐀𝐑 โปรแรง ยิ่ง...

ส่งท้ายปี...ด้วยโปรแรงจัดหนัก‼️ กับโตโยต้าล้านนา ที่งาน𝐌𝐎𝐓𝐎𝐑 𝐒𝐀𝐋𝐄 𝐎𝐅 𝐓𝐇𝐄 𝐘𝐄𝐀𝐑 โปรแรง ยิ่งใหญ่! ส่งท้ายปี🚗🔥📅 วันที่ 31 ต.ค. - 9 พ.ย. 2568 📍 ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ จ.เชียงใหม่🎉จองรถโตโยต้...


  • ข่าวยานยนต์
  • |
  • 31 ต.ค. 2568, 13:44
  • |
  • 438
Sytiq Company

ออกแบบพัฒนาโปรแกรมและแอพลิเคชั่น

โดยบริษัทไซทิค ติดต่อ:0819507128

Sytiq Company

ออกแบบและติดตั้ง Home Automation

โดยบริษัทไซทิค ติดต่อ:0819507128