"อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ"อดีตนายกรัฐมนตรี ชี้ถึงเวลายกเครื่องเกษตรไทยสู่การทำเกษตรแม่นยำเต็มรูปแบบ แนะรัฐอัดงบช่วยเปลี่ยนเทคโนโลยีลดต้นทุน

ข่าวเกษตร , 7 ธ.ค. 2565, 14:52

"อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ"อดีตนายกรัฐมนตรี ชี้ถึงเวลายกเครื่องเกษตรไทยสู่การทำเกษตรแม่นยำเต็มรูปแบบ แนะรัฐอัดงบช่วยเปลี่ยนเทคโนโลยีลดต้นทุน

"อภิสิทธ์" ลั่นเกษตรไทยถึงเวลายกเครื่อง   ชี้โลกร้อน ปัญหาขาดแคลนปุ๋ย เทรนด์สุขภาพบีบให้ต้องปรับตัว รัฐต้องอัดงบช่วยเปลี่ยนเทคโนโลยีลดต้นทุน   รื้อมาตรการประกันราคา เลิกให้แบบหว่าน  “ณัฐพงศ์” จี้รัฐหนุนเอสเอ็มอีลุยตลาดโลกแข่งรายใหญ่  

จากงานสัมมนาทางวิชาการ ในหัวข้อ"พลิกแผนปฏิรูปเกษตรไทยยุค 5 G” ของมหาวิทยาลัยแม่โจ้ จังหวัดเชียงใหม่ ที่จัดขึ้นในวันที่ 7 ธันวาคม 256 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี  ได้ขึ้นกล่าวปาฐกถา ในหัวข้อเรื่อง “ได้เวลายกเครื่องเกษตรไทย” โดยมีใจความสำคัญและให้ความเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์การเกษตรไทยในปัจจุบันต้องได้รับการ“ยกเครื่อง”อย่างเร่งด่วนที่สุดเพื่อให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของโลก

“เรามักจะภาคภูมิใจว่าภาคเกษตรไทยมีความได้เปรียบจากความอุดมสมบูรณ์ที่มีมาแต่ช้านาน ในน้ํามีปลา ในนามีข้าว เราจึงทําการเกษตรตามธรรมชาติ มีเหลือจากบริโภคภายในประเทศก็ส่งออก ไม่เคยต้องถูกกดดัน ให้เปลี่ยนแปลง แต่ปัจจุบัน เรามีครัวเรือนที่อยู่ในภาคเกษตรถึงร้อยละ 40 แต่ทํารายได้ไม่ถึงร้อยละ 10 ของ ผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ จึงทําให้เกิดความเหลื่อมล้ำสูง เกษตรกรกลายเป็นกลุ่มผู้ยากจนที่รัฐต้องใช้ งบประมาณจํานวนมากในการให้ความช่วยเหลือ ที่สําคัญผลิตภาพของผลผลิตทางการเกษตรของเราต่ํา แม้ใน พืชผลที่เราส่งออกเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก”

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า จากนี้ไป จะมีหลายปัจจัยกดดันจากภายนอกเพิ่มขึ้น ได้แก่ ภาวะโลกร้อนที่ส่งผ ส่งผลกระทบ ต่อความอุดมสมบูรณ์ ปัญหาภัยพิบัติ ผนวกกับการกีดกันทางการค้าในลักษณะเดียวกับที่การประมงของไทย เผชิญมาแล้ว ภาวะสงครามยูเครน-รัสเซียที่ส่งผลให้เกิดปัญหาขาดแคลนปุ๋ย ซึ่งไทยต้องพึ่งพาการนําเข้าปุ๋ย เกือบทั้งหมด จําเป็นต้องมีมาตรการเตรียมการรับมือโดยด่วน

“แนวโน้มโลกให้ความสําคัญกับเรื่องสุขภาพมากขึ้น เน้นสินค้าออร์แกนิค การผลิตที่มุ่งความเป็นธรรมชาติไม่ใช้สารเคมี ส่งผลต่อความต้องการสินค้าเกษตรโดยตรง ขณะเดียวกันไทยมีคู่แข่งมากขึ้น โดยเฉพาะ เวียดนาม ถือเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวในหลาย ๆ สินค้า เช่น ข้าว ทุเรียน”

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า หัวใจของการยกเครื่อง คือ การนําเทคโนโลยีมาใช้เพื่อลดต้นทุนการจัดการเรื่องดิน น้ํา อากาศ ปรับตัวเข้าสู่การทําเกษตรแม่นยําเต็มรูปแบบ แต่การจะดําเนินการดังกล่าวได้ต้องเริ่มต้นด้วยการมี โครงการเพิ่มพูนทักษะ (Upskill) ให้เกษตรกรไทยเรียนรู้การใช้เครื่องมือสมัยใหม่เหล่านี้ พร้อมไปกับการได้รับ โอกาสจากการเพิ่มมูลค่าของสินค้าและการทําการตลาด โดยรัฐให้การสนับสนุนทั้งในเรื่องโครงสร้างพื้นฐาน และเงินทุนที่จะต้องใช้ในการปรับเปลี่ยน

นายอภิสิทธิ์ยังได้กล่าวต่อไปว่า รัฐควรใช้โอกาสในช่วงเปลี่ยนผ่านนี้ ปรับปรุงนโยบายของรัฐต่อภาคการเกษตร โดยนําเครื่องมือที่ใช้ในการสนับสนุนเกษตรกรในปัจจุบัน เช่น โครงการประกันรายได้ในการกําหนดเงื่อนไขและ สร้างแรงจูงใจให้เกษตรกรปรับตัว และใช้โอกาสนี้ดําเนินนโยบายเกี่ยวกับการเพิ่มอํานาจการต่อรองของเกษตรกรและกลุ่มเกษตรกรเพื่อมิให้การเปลี่ยนแปลงเอื้อประโยชน์เฉพาะกับธุรกิจขนาดใหญ่ รวมทั้งสร้าง แพลตฟอร์มต่าง ๆ ให้เกษตรกรเข้าถึงตลาดโลกโดยตรงได้ง่ายขึ้น

“การเร่งปรับปรุงพัฒนาเกษตรกรไทยเป็นเรื่องเร่งด่วน ไทยหมดเวลาแล้ว ถ้าเรายังย่ําอยู่กับที่ จะแข่งขันใน ตลาดโลกไม่ได้แล้ว แต่หากการยกเครื่องประสบความสําเร็จ จะเป็นการยกระดับทั้งภาคการเกษตร ความ เป็นอยู่ของเกษตรกร แก้ปัญหาความยากจนและความเหลื่อมล้ํา ตลอดจนเสริมสถานะของประเทศไทยในภาวะที่โลกกําลังเผชิญกับปัญหาความมั่นคงด้านอาหาร” นายอภิสิทธิ์กล่าวในที่สุด

ด้านนายณัฐพงศ์  พันธเกียรติไพศาล ที่ปรึกษาประธานคณะกรรมาธิการการพาณิชย์และทรัพย์สินทางปัญญา   บรรยายหัวข้อ “เกษตรกรไทยกับเทรนด์ความยั่งยืน” ว่า สินค้าเกษตรไทยยังมีอนาคตมากในเวทีโลก โดยเฉพาะเกษตรแปรรูปด้านอาหาร และผลิตภัณฑ์ที่ใช้ด้านสุขภาพ แต่ปัญหาคือ ต้องมีการจัดสมดุลระหว่างผู้ส่งออก หรือผู้ประกอบการรายใหญ่ รายเล็ก ให้มีความสามารถด้านการแปรรูปและส่งออกใกล้เคียงกัน เพราะผู้ประกอบการขนาดเล็กจะสร้างมูลค่าเพิ่มของสินค้าได้มากกว่า และกระจายซื้อวัตถุดิบจากเกษตรกรได้กว้างขวางกว่า ในราคาที่่เป็นธรรมกว่า โดยการลงทุนด้านเครื่องจักรในการแปรรูป เทคโนโลยี และวิทยาศาสตร์ด้านอาหารที่พัฒนาขึ้นอย่างมากและต้นทุนลดลง หากรัฐบาลมองความสัมพันธ์เหล่านี้ออก และมีนโยบายส่งเสริมที่ถูกจุด บูรณาการร่วมกับภาคการศึกษาวิจัย เอกขนขนาดกลางและขนาดเล็ก 
“อุตสาหกรรมเกษตรแปรรูปจะเป็นอนาคตของประเทศ และส่งผลดีต่อประชาชนในประเทศมากกว่าอุตสาหกรรมอื่่น ๆ ทั้งหมดในอนาคต” นายณัฐพงศ์กล่าว
 


ข่าวอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

ข่าวดี! ต่อโปรโมชั่น VESPA ถึง 31 ก.ค. 68 นี้เท่านั้น!

 🎉 ข่าวดี!! ต่อโปรแรงสำหรับลูกค้าVESPA นิยมพานิช ถึง 31 ก.ค. 68 นี้!#เวสป้ารุ่นใหม่ โปรแรงได้ใจ😍.🛵 ตัวใหม่ 150cc แรงสุด เท่สุด🔒 มั่นใจด้วยระบบเบรก ABS!!👉 ในราคาไม่ถึงแสน!!!✨ จองก่อน รับรถก่อน พร้...


  • ข่าวยานยนต์
  • |
  • 5 ก.ค. 2568, 17:50
  • |
  • 160

ส่งมอบรถใหม่ Hyundai STARGAZER Smart 6 (25MY) สีดำ เป็นรถยนต์น่าใช้สำหรับครอบครัว

เอชดีเจมอเตอร์ ฮุนไดเชียงใหม่ โดยที่ปรึกษาการขาย ร่วมแสดงความยินดีพร้อมส่งมอบรถใหม่ให้กับคุณอานนท์ บุญวรHyundai STARGAZER Smart 6 (25MY) สีดำ ขอขอบคุณที่ให้เกียรติมาเป็นครอบครัวฮุนได สอบถามรายละเอียด...


  • ข่าวยานยนต์
  • |
  • 3 ก.ค. 2568, 12:52
  • |
  • 659

HYUNDAI ROAD SHOW at Central Festival Chiangmai🚩

HYUNDAI ROAD SHOW at Central Festival Chiangmai🚩พบกับ Hyundai PALISADE รถยนต์ D SUV สุดพรีเมียม ออฟชั่นล้น สำหรับผู้นำตัวจริงพบกับ Hyundai STARIA รถยนต์ MPV ออฟชั่นล้นๆ สุดพรีเมียม สำหรับครอบครัวสมัยใ...


  • ข่าวยานยนต์
  • |
  • 29 มิ.ย. 2568, 15:00
  • |
  • 243

มาถึงเชียงใหม่แล้ว M8 PHEV วิ่งไกล 1000 กม.ชาร์จไฟได้ จองวันนี้ 21-22 มิถุนายน 68 รับของแ...

คาดว่าราคา GAC M8 ในประเทศไทยคาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ประมาณ 2.5 ล้านบาท. GAC M8 ที่จะเข้ามาจำหน่ายในไทยเป็นรุ่น PHEV (ปลั๊กอินไฮบริด) ซึ่งมีเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร เทอร์โบ และสามารถวิ่งด้วยไฟฟ้าได้ไกล...


  • ข่าวยานยนต์
  • |
  • 21 มิ.ย. 2568, 12:33
  • |
  • 369

โตโยต้า ส่งต่อพลังใจให้เยาวชน 🤝⚽ ผ่านโครงการ 𝐓𝐎𝐘𝐎𝐓𝐀 𝐉𝐮𝐧𝐢𝐨𝐫 𝐅𝐨𝐨𝐭𝐛𝐚𝐥𝐥 𝐂𝐥𝐢𝐧𝐢𝐜 𝟐𝟎𝟐𝟓

 โตโยต้า ส่งต่อพลังใจให้เยาวชน 🤝⚽ผ่านโครงการ 𝐓𝐎𝐘𝐎𝐓𝐀 𝐉𝐮𝐧𝐢𝐨𝐫 𝐅𝐨𝐨𝐭𝐛𝐚𝐥𝐥 𝐂𝐥𝐢𝐧𝐢𝐜 𝟐𝟎𝟐𝟓บริษัท โตโยต้า ล้านนา จำกัด ร่วมกับ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด จัดทำกิจกรรม CSR มอบอุปกรณ์กีฬาให้...


  • ข่าวยานยนต์
  • |
  • 20 มิ.ย. 2568, 17:33
  • |
  • 444
Sytiq Company

ออกแบบพัฒนาโปรแกรมและแอพลิเคชั่น

โดยบริษัทไซทิค ติดต่อ:0819507128

Sytiq Company

ออกแบบและติดตั้ง Home Automation

โดยบริษัทไซทิค ติดต่อ:0819507128