ฟื้น “เวียงทาคาม-ท่าเชียงทอง” หมุดหมายแรกก่อนพระนางจามเทวีเคลื่อนขบวนสู่นครหริภุญไชย

ข่าวศิลปวัฒนธรรม , 19 ธ.ค. 2565, 21:38

ฟื้น “เวียงทาคาม-ท่าเชียงทอง” หมุดหมายแรกก่อนพระนางจามเทวีเคลื่อนขบวนสู่นครหริภุญไชย

          คำว่า “เวียงทาคาม” และ “ท่าเชียงทอง” เป็นชื่อบ้านนามเมืองที่ปรากฏในตำนานอย่างน้อยสามฉบับคือ ตำนานมูลศาสนา พงศาวดารโยนก และตำนานจามเทวีฉบับวัดทากาศ เป็นจุดที่ระบุว่า กระบวนเสด็จของพระนางจามเทวีใกล้มาถึงนครหริภุญไชยแล้ว พระนางจามเทวีโปรดให้พักไพร่พลที่นี่ก่อน จากนั้นสั่งให้นายขมังธนูยิงธนูสิงห์เข้าไปที่ชานเมืองหริภุญไชย ธนูตกลงที่ใด ก็จะไปสร้าง “เวียงเล็ก” เป็นพลับพลาชั่วคราวสักระยะ ก่อนที่จะเคลื่อนเข้าสู่ตัวพระนคร โดยให้ฤษีสุกกทันตะไปเจรจากับฤษีวาสุเทพเรื่องการเตรียมความพร้อมก่อน เนื้องหาของตำนานมูลศาสนา ซึ่งเป็นตำนานฉบับเก่าสุดเขียนเมื่อ 500 ปีที่แล้วมีดังนี้

          “สถานที่นั้นจึงได้เรียกว่า ‘ปลาเต่า’ มาตราบเท่าถึงกาลบัดนี้ ลำดับแต่นั้นมาพระนางก็เสด็จขึ้นไปถึงสถานที่แห่งหนึ่งเป็นที่พึงใจนัก พระนางจึงตรัสสั่งให้ตั้งยังบ้านอันหนึ่งในที่ใกล้น้ำแม่ทา บ้านนั้นจึงได้ชื่อว่า ‘บ้านทา’ นั้นแล 

          ครั้งนั้น พระนางจามเทวีพร้อมด้วยหมู่รี้พล กับทั้งสุกกทันตฤษีก็ประทับอยู่ ณ ที่นั้นก่อน แล้วพระนางก็ให้สร้างยังพระเจดีย์องค์หนึ่งชื่อ ‘ปวิสิตปกะ’ แล้วพระนางก็ทรงกระทำสักการบูชาด้วยเครื่องบูชาทั้งหลายต่างๆ แล้วก็เสด็จจาก ‘บ้านทาคาม’ นั้น มาถึง ‘ท่าเชียงทอง’ พระนางก็ประทับอยู่ ณ ที่นั้น จึงตรัสถามคนทั้งหลาย ดูราชาวพ่อค้าชาวอาร์ทั้งหลาย แต่ที่นี้ไปถึงลพุนนั้นยังประมาณมากน้อยเท่าใด 

          คนทั้งหลายทูลตอบว่า ข้าแต่มหาราชเทวีเป็นเจ้า แต่ที่นี้ไปถึงเมืองลพุนนั้น ยังอีกครึ่งโยชน์ (หมายถึง ๘ กิโลเมตร-ผู้เขียน) เมื่อพระนางสดับถ้อยคำดังนั้น จึงตรัสว่า ดูราพ่อค้าชาวอาร์ทั้งหลาย อย่าเร่งรีบไปเมืองลพุนก่อน เราจักตั้งบ้านๆ หนึ่ง อยู่แต่ที่เหนือนี้ก่อน”[i]

          หลังจากนั้น เป็นเหตุการณ์ที่พระนางจามเทวีให้นายธนูศิลป์ยิงธนูไปตกยังจุดที่จะสร้างเมืองชั่วคราว คือเวียงเล็กบริเวณวัดกู่ละมัก 

          ปัญหาที่ถกเถียงกันทุกวันนี้มีอยู่ว่า ตำนานสามฉบับที่กล่าวมานี้ เขียนแตกต่างไปจากตำนานจามเทวีพื้นบ้านอีกกลุ่มหนึ่ง เช่นฉบับพระมหาหมื่น วุฑฺฒิญาโณ และฉบับสมุดข่อยเชียงใหม่ ที่เรียกจุดเสี่ยงทายธนูว่า “ดอนทอง/ดอยทอง” ไม่เรียก “ท่าเชียงทอง” ซ้ำกว่าจะจึงจุดที่เรียกว่า ดอนทอง/ดอยทอง นั้น กระบวนเสด็จต้องผ่านจุดต่างๆ มากมาย แต่ในตำนานมูลศาสนา พงศาวดารโยนก กับวัดทากาศ เขียนแค่ว่า หลังจากดอยเต่าแล้ว ก็มาถึงจุดที่แม่น้ำทา (ทะรา/ทะลา) ไหลมาบรรจบกับแม่ปิง พระนางจามเทวีโปรดให้สร้างบ้านทาคาม/ทะละคาม/โทรคาม สร้างเจดีย์ปวิสิตตปกะ/วิปะสิทธิเจดีย์ขึ้น จากนั้นก็ถึง “ท่าเชียงทอง” แล้วยิงธนูเสี่ยงทายเลย

เพื่อให้เกิดความเข้าใจง่าย โปรดดูตารางเปรียบเทียบกันของตำนานทั้ง 5 ฉบับนี้ 

 

ลำดับที่ตำนานมูลศาสนาพงศาวดารโยนกฉบับวัดทากาศ

ฉบับมหาหมื่น

 

ฉบับสมุดข่อยเชียงใหม่เหตุการณ์ที่เกี่ยวข้อง
1ปลาเต่าดอนเต่าปลาเต่าปลาเต่าปลาเต่าเป็นเมืองร้างมาก่อน ตั้งเมืองขึ้น ปลาเต่ารบกวน
2บ้านทา(คาม)บ้านโทรคามบ้านแม่ทราบ้านทะลาบ้านทรา/ทราคามที่ราบริมแม่น้ำทรา ตั้งบ้านขึ้น
3

เจดีย์

ปวิสิตปกะ

วิปะสิทธิเจดีย์วิสิตปัตตะปวิสิตปตปวิสิตปตะพระนางกับสุกกทันตะฤษีสร้างเจดีย์องค์หนึ่ง
4---รอยพระบาทรอยพระบาทบูชารอยพระพุทธบาท
5-ฮอด -หอดหอดตั้งเมืองจุดที่มีพระพุทธบาท
6---อังคะรัฏฐะอังครัฏฐะมาถึงเมืองเก่า
7---วังสะแคงวังสะแกงเรือพลิกตะแคง
8---แม่ขาวแม่ขานเจอก้อนหินสีขาวอีกนัยหนึ่งสื่อถึงชาวบ้านขานรับ
9ท่าเชียงทองท่าเชียงทองท่าเชียงทองดอยทองดอนทองจุดยิงธนูถามทางลำพูนอีกไกลไหม
10บ้านรัมมกาคามวัดละปัก, บ้านระมักรัมมคามวัดอุดม, รามคาม, วัดกู่ละมักวัดอุดมตั้งเวียงเล็ก สร้างบ้านรมยคาม วัดกู่ละมัก

 

          เห็นได้ว่าตำนาน ๓ เล่มในกลุ่มแรก (มูลศาสนา พงศาวดารโยนก ฉบับวัดทากาศ) ไม่มีการกล่าวถึงสถานที่ ช่วงพระนางจามเทวีกราบรอยพระพุทธบาทที่เมืองฮอด ผ่านเมืองอังครัฏฐะ (จอมทอง) วังสะแกง แม่ขาว (แม่ขาน) มาจนถึงดอยทอง (ดอนทอง) หลังจากที่พระนางจามเทวีกับฤษีสุกกทันตะก่อพระเจดีย์ปวิสิตปตะ ที่บ้านทาคามเสร็จแล้วแต่อย่างใดเลย หมายความว่า สถานที่ในตำนานสามเล่มนี้ขาดหายไปช่วงยาวมาก นับจากบ้านทาคาม สร้างเจดีย์ ก็ข้ามมาถึงท่าเชียงทองจุดที่ยิงธนูเลย 

 ในขณะที่ตำนานกลุ่มที่สอง (พระมหาหมื่นกับสมุดข่อยเชียงใหม่) ก็เอาช่วงรอยพระบาท/อังครัฏฐะ/วังสะแกง/แม่ขาว(แม่ขาน) มาคั่นแทรกก่อน กว่าจะถึงจุดพุ่งธนูชื่อ ดอนทอง/ดอยทอง (มาบรรจบจุดเดียวกันกับที่กลุ่มแรกใช้ว่าท่าเชียงทอง) หากพิจารณาตามนี้ จากบ้านทาคามกว่าจะไปถึงท่าเชียงทองนั้นอยู่ไกลกันมาก

          ในเมื่อตำนานทั้งสองกลุ่มเขียนค่อนข้างสับสน แต่ตำนานทุกฉบับทิ้งรหัสไว้ว่าจุดที่สร้างบ้านทาคามนั้น คือช่วงที่แม่น้ำปิงสบกับแม่น้ำทา เราควรพิจารณาคำว่าแม่น้ำทรา (ทะรา/ทา) นั้นมีกี่แห่ง อยู่ที่ไหนกันบ้างตามที่เราทราบกันดีนั้น ก็คือแม่น้ำทาสายที่ไหลมาจากขุนตานผ่าน อ.แม่ทาและ อ.ป่าซาง ยังจะพบแม่น้ำทาที่ชื่อซ้ำกันอีกสายในบริเวณเมืองฮอดอีกหรือไม่ จากการลงพื้นที่สำรวจเมืองฮอด ดิฉันไม่พบว่ามีแม่น้ำทาไหลมาบรรจบแม่น้ำปิงแต่อย่างใด มีเพียงคลองเล็กๆ สายอื่น และคลองเหล่านี้ก็ไม่เค้ารากศัพท์ของคำว่า ทรา/ทา/ทะลา 

จุดที่พระนางจามเทวีถามทางพ่อค้าชาวอาร์(น่าจะหมายถึงพ่อค้าวัวต่างทางไกล ไม่จีนฮ่อ ก็ เงี้ยว หรือชาวอาหรับ?) คือตอนที่พระนางอยู่ท่าเชียงทอง/ดอนทอง/ดอยทอง ทรงได้คำตอบว่า เมืองลำพูนยังอยู่อีกยาวไกลประมาณ “ครึ่งโยชน์” หรือ “๔,๐๐๐ วา” เมื่อคำนวณตามสูตรคณิตศาสตร์แล้ว ๑ โยชน์ = ๑๖ กิโลเมตร, ครึ่งโยชน์จึงเท่ากับ ๘ กิโลเมตร เช่นเดียวกันกับ ๑ วา = ๒ เมตร, ๔,๐๐๐ วา = ๘,๐๐๐ เมตร = ๘ กิโลเมตรเท่ากัน

 จากจุดที่เรียกว่าท่าเชียงทอง (ต.บ้านแป้น) ไปถึงใจกลางเมืองลำพูน มีระยะทาง ๘ กิโลเมตรพอดี ดิฉันและสิบเอกสุวิช ศรีวิราช รองประธานสภาวัฒนธรรมอำเภอป่าซาง เคยวัดระยะทางจากใจกลางเมืองลำพูนบริเวณวัดพระธาตุหริภุญชัย มาจนถึงวัดกู่ละมัก พบว่ามีระยะทาง ๔ กิโลเมตร และจากวัดกู่ละมักวัดไปยังแหล่งโบราณสถานท่าเชียงทอง ใกล้จุดที่เรียกว่า “สบทา” ก็มีระยะทางยาวอีก ๔ กิโลเมตรเช่นเดียวกัน รวมเป็น ๘ กิโลเมตรพอดี สอดคล้องกับตำนาน ดังนั้นจึงมีความสมเหตุสมผลเป็นอย่างยิ่ง หากจะระบุว่าจุดที่ควรเป็น “ท่าเชียงทอง” นั้นต้องตั้งอยู่ทางใต้วัดกู่ละมักเพียง ๔ กิโลเมตรเท่านั้น

จุดนี้ก็คือจุดที่กรมศิลปากรดำเนินการขุดค้นหลักฐานทางโบราณคดีเมื่อปี ๒๕๕๑-๒๕๕๒ จากรายงานการขุดค้นพบว่าบริเวณดังกล่าวมีสภาพเป็นพื้นที่ราบกินอาณาเขตครอบคลุมฝั่งตะวันออกของแม่น้ำกวงและฝั่งเหนือ (หรือตะวันตก) ของแม่น้ำทา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โบราณสถานร้างตามแนวริมฝั่งแม่น้ำกวงพบว่ามีการตั้งถิ่นฐานของชุมชนยุคหริภุญไชยและก่อนประวัติศาสตร์จำนวนมาก ในส่วนที่เรียกว่า “ท่าเชียงทอง” นั้นได้พบซากเนินดินที่ยังเป็นป่ารกชัฏ ตลอดจนโบราณสถานซึ่งประกาศขึ้นทะเบียนวัดร้างจากข้อมูลสำนักงานพระพุทธศาสนามากกว่า ๑๒ แห่ง

          สำนักศิลปากรที่ ๗ เชียงใหม่ (สมัยนั้นยังเรียกศิลปากรที่ 8) ได้ดำเนินการขุดแต่งโบราณสถานในกลุ่มท่าเชียงทอง เริ่มจากบริเวณทางเข้าบ้านสันมะกรูด ต.บ้านแป้น อ.เมือง จ.ลำพูน เลี้ยวซ้ายเข้าไปทางสวนลำไย จะพบซุ้มประตูโขง ซึ่งฐานรากค่อนข้างอยู่ในชั้นดิน จากนั้นพบวัดกู่เหลี่ยม (เรียกชื่อตามฐานเจดีย์ทรงสี่เหลี่ยมซ้อนกันเป็นชั้นๆ คล้ายปิรามิด) และวัดกู่ดำ นอกจากนี้มี กู่สา วัดร้างสันมะโก (สันพะโค)จากการขุดแต่่งแหล่งโบราณคดีทั้งหมดนี้ พบโบราณวัตถุภาชนะเครื่องใช้สมัยหริภุญไชยปะปนกับสมัยล้านนา ได้ข้อสรุปว่าบริเวณนี้เป็นแหล่งชุมชนขนาดใหญ่ที่มีความเจริญรุ่งเรืองมาแล้วตั้งแต่ยุคหริภุญไชย มีการใช้งานอย่างต่อเนื่องมาจนถึงยุคที่พม่าปกครองล้านนาราวพุทธศตวรรษที่ ๒๒

เมื่อนายขมังธนูได้ยิงธนูจากจุดท่าเชียงทองนั้นแล้ว ลูกธนูได้มาตกในจุดเสี่ยงทายที่ควรสร้างเวียงเล็กในระยะทางกึ่งกลางก่อนจะถึงนครหริภุญไชย จุดที่ธนูตกจึงเป็นสถานที่มงคลหรือสถานที่อันอุดม พระนางจามเทวีโปรดให้สร้างเจดีย์องค์หนึ่งครอบจุดที่ “ปืนธนูมงคล” ปักอยู่ เรียก "ละปัก" (หมายถึงลูกธนูของชาวลัวะ-ชาวเม็งเรียกโดยรวมว่าพวก "ละ" หรือ “ละว้า” มาตกปักอยู่) ต่อมาแผลงเป็น "กู่ละมัก" 

          ทุกวันนี้ โบราณสถาน “ท่าเชียงทอง” ที่ฝ่าวิกฤติความสับสน ทะเลาะถกเถียง ช่วงชิงพื้นที่ประวัติศาสตร์จากตำนานหน้าแรกของพระนางจามเทวีก่อนเคลื่อนสู่นครหริภุญไชย กลับอยู่ในสภาพถูกทิ้งร้าง จนทำให้ สภาวัฒนธรรมอำเภอป่าซางมีความประสงค์จะฟื้นฟูเวียงโบราณแห่งนี้ ทั้งเวียงทาคามและท่าเชียงทอง ด้วยการจัดกิจกรรมลงพื้นที่สำรวจทั้งสองแหล่งในวันพุธที่ 21 ธันวาคม 2565 ตั้งแต่เวลา 09.00 น.เป็นต้นไป ส่วนภาคบ่ายมีกิจกรรมล้อมวงเสวนาหัวข้อ “เวียงทาคาม-ท่าเชียงทอง” ประวัติศาสตร์หน้าแรกของนครหริภุญไชย สถานที่นัดเจอกันภาคเช้าโปรดติดตามดูหน้าเฟซบุ๊กของ Pensupa Sukkata ส่วนสถานที่เสวนาภาคบ่ายคือ บริเวณโบสถ์ร้าง หลังสถานีตำรวจภูธรอำเภอป่าซางหลังเก่า


 

[i] ตำนานมูลศาสนา, ๑๙๙

11

ข่าวอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

ส่งมอบรถใหม่ Hyundai STARGAZER X6 สีบรอนเงิน เป็นรถยนต์น่าใช้สำหรับครอบครัว

เอชดีเจมอเตอร์ ฮุนไดเชียงใหม่ โดยที่ปรึกษาการขายเซลส์แนน ร่วมแสดงความยินดีพร้อมส่งมอบรถใหม่ให้กับคุณสิรินาถ ว่าความดี มาถอย Hyundai STARGAZER X6 สีบรอนเงิน ขอขอบคุณที่ให้เกียรติมาเป็นครอบครัวฮุนได สอบ...


  • ข่าวยานยนต์
  • |
  • 29 พ.ย. 2567, 09:59
  • |
  • 23

เริ่มไปแล้ววันนี้งานแสดงรถยนต์ ETON CHIANGMAI EXPO 2024 ณ เซ็นทรัลเชียงใหม่ เฟสฯ 26 พย.ถึง...

ในงานท่านจะได้พบกับรถยนต์นำเข้าหลายรุูปแบบ ทั้งเครื่องยนต์สันดาป,ไฮบริด และรถยนต์ไฟฟ้า100% ที่นำมาเปิดรับจองสำหรับท่านที่สนใจอยากได้รถยนต์ไปใช้งาน เรามีข้อเสนอพิเศษเฉพาะคุณที่สนใจเชิญแวะมาหาเราได้ที่...


  • ข่าวยานยนต์
  • |
  • 26 พ.ย. 2567, 13:40
  • |
  • 55

ส่งมอบไปอีกคันแล้ว ฟอร์ด EV 2.0L Turbo Sport 4x2 6AT-DAT64(22B) เป็นรถยนต์ที่น่าใช้

 ส่งมอบรถยนต์น่าใช้ให้กับลูกค้า โดยที่ปรึกษาการขาย ดวงพร กิ่งจำปา  ร่วมแสดงความยินดีกับคุณ เดนนิช สุขสวัสดิ์  มารับ ฟอร์ด EV 2.0L Turbo Sport 4x2 6AT-DAT64(22B) ไปจากโชว์รูม ขอบคุณที่ ใ...


  • ข่าวยานยนต์
  • |
  • 23 พ.ย. 2567, 14:59
  • |
  • 78

ส่งมอบไปอีกคันแล้ว ฟอร์ด EV 2.0L Turbo Sport 4x2 6AT-DAT64(22B) เป็นรถยนต์ที่น่าใช้

 ส่งมอบรถยนต์น่าใช้ให้กับลูกค้า โดยที่ปรึกษาการขาย ดวงพร กิ่งจำปา  ร่วมแสดงความยินดีกับคุณ เดนนิช สุขสวัสดิ์  มารับ ฟอร์ด EV 2.0L Turbo Sport 4x2 6AT-DAT64(22B) ไปจากโชว์รูม ขอบคุณที่ ใ...


  • ข่าวยานยนต์
  • |
  • 23 พ.ย. 2567, 14:57
  • |
  • 64

ส่งมอบไปอีกคันแล้ว ฟอร์ด Double Cab Wildtrak 2.0L Turbo HR 6AT เป็นรถยนต์ที่น่าใช้

 ส่งมอบรถยนต์น่าใช้ให้กับลูกค้า โดยที่ปรึกษาการขาย เกลดา อินทะนะ ร่วมแสดงความยินดีกับ คุณ เฉลิมชัย คำแปง มาถอย ฟอร์ด Double Cab Wildtrak 2.0L Turbo HR 6AT ไปจากโชว์รูม ขอบคุณที่ ให้เกียรติมาเป็นค...


  • ข่าวยานยนต์
  • |
  • 23 พ.ย. 2567, 14:52
  • |
  • 70

ส่งมอบไปอีกคันแล้ว ฟอร์ด EV 2.0L Turbo Sport 4x2 6AT-DAT64(22B) เป็นรถยนต์ที่น่าใช้

 ส่งมอบรถยนต์น่าใช้ให้กับลูกค้าโดยที่ปรึกษาการขาย หฤทัย สมวงค์แก้ว ร่วมแสดงความยินดีกับ คุณ สุรพล อรทัย มาถอย ฟอร์ด EV 2.0L Turbo Sport 4x2 6AT-DAT64(22B) ไปจากโชว์รูม ขอบคุณที่ ให้เกียรติมาเป็นค...


  • ข่าวยานยนต์
  • |
  • 23 พ.ย. 2567, 14:43
  • |
  • 79
Sytiq Company

ออกแบบพัฒนาโปรแกรมและแอพลิเคชั่น

โดยบริษัทไซทิค ติดต่อ:0819507128

Sytiq Company

ออกแบบและติดตั้ง Home Automation

โดยบริษัทไซทิค ติดต่อ:0819507128