เวิ้งน้ำ หมอกหนาว เวียงเสน่ห์ : สหพันธ์สัญจรจังหวัดพะเยา

ข่าวศิลปวัฒนธรรม , 6 ก.พ. 2566, 22:03

เวิ้งน้ำ หมอกหนาว เวียงเสน่ห์ : สหพันธ์สัญจรจังหวัดพะเยา

ระหว่างวันที่ 25-27 มกราคมที่ผ่านมา สมาคมสหพันธ์ท่องเที่ยวภาคเหนือ 17 จังหวัด หรือ สสทน. ได้จัดกิจกรรม “สหพันธ์สัญจร” (กิจกรรมนี้มีขึ้นทุกๆ 3-4 เดือน) ถึงคิวแวะเวียนไปเยี่ยมเยือนเพื่อนของเราที่ทำงานในวงการท่องเที่ยว ณ จังหวัดพะเยา โดยดิฉันในฐานะนายกสมาคมสหพันธ์ภาคเหนือจังหวัดลำพูน ได้นำเสนอโปรแกรมพิเศษเพิ่มเติมนอกเหนือไปจากโปรแกรมหลักที่ทาง สสทน.พะเยา ได้จัดเตรียมไว้ให้คณะแล้ว 

ทริปนี้มีชื่อว่า “ตามรอยครูบาเจ้าศรีวิชัย แอ่วพะเยาเมืองโบราณสามเวียง” เราไปตามรอยวัดที่ครูบาเจ้าศรีวิชัยซ่อมและสร้างที่ไหนกันบ้าง รวมทั้งเวียงโบราณในพะเยาที่ว่าสามเวียงนั้น มีเวียงอะไรหนอ ตามมาดูกันเลยค่ะ

วันพุธที่ 25 มกราคม 2566 ทีมสมาชิก สสทน.ลำพูนจำนวน 40 คน หรือรถตู้ 4 คัน ออกเดินทางไปจุดแรกคือ “เวียงกาหลง” (หมายเหตุ เวียงนี้ยังไม่นับว่าเป็น 1 ใน 3 เวียงนะคะ เพราะอยู่ในจังหวัดเชียงราย) จุดนี้มีวัดสร้างใหม่อลังการไม่ไกลจากแหล่งเตาเผาอันลือชื่อ การที่คณะแวะบริเวณนี้ ก็เพราะเป็นจุดทางผ่านตั้งอยู่ปลายสุดอำเภอเวียงป่าเป้า จังหวัดเชียงราย จ่อๆ จะเข้าอำเภอวังเหนือ จังหวัดลำปางอยู่รอมร่อ เวียงกาหลงเป็นจุดที่มีเรื่องราวของตำนานพื้นถิ่นเรื่อง “แม่กาขาว” (แม่กาเผือก) ผู้ให้กำเนิดพระมหาโพธิสัตว์ทั้ง 5 พระองค์ หรือที่เรียกกันว่า พระพุทธเจ้าห้าพระองค์ใน “ภัทรกัป” คือกัปปัจจุบัน โดยในระหว่างที่แม่กาเผือกออกไปหาอาหารให้ลูก เกิดพายุพัดกระหน่ำรุนแรง ทำให้แม่กาบินหลง หาทางกลับรังไม่เจอ ไข่ทั้งห้าฟองจึงพลัดตกลงมาจากรัง กระจายไปอยู่ตามที่ต่างๆ 

ไข่ฟองแรก ร่วงหล่นไหลไปยังเล้าไก่ จึงถูกฟูมฟักด้วยแม่ไก่ พระชาติต่อมากลายเป็นพระพุทธเจ้าองค์แรกในภัทรกัป คือพระกกุสันโธพุทธเจ้า

ไข่ฟองที่สอง มีแม่นาค (งูใหญ่) เอาไปเลี้ยง พระชาติต่อมากลายเป็นพระพุทธเจ้าองค์ที่สอง นามพระโกนาคมณ์พุทธเจ้า

ไข่ฟองที่สาม มีแม่เต่าเอาไปเลี้ยง พระชาติถัดไปกลายเป็นพระพุทธเจ้าองค์ที่สาม นามพระกัสสปพุทธเจ้า

            ไข่ฟองที่สี่ มีแม่โคเอาไปเลี้ยง พระชาติถัดไปกลายเป็นพระพุทธเจ้าองค์ที่สี่ นามพระโคตมพุทธเจ้า (พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน)

ไข่ฟองที่ห้า มีแม่สิงห์เอาไปเลี้ยง กำลังรอจะมาเสวยพระชาติเป็นพระพุทธเจ้าองค์ที่ห้า หรือองค์สุดท้ายในภัทรกัป นามพระศรีอาริยเมตไตรยพุทธเจ้า ซึ่งต้องรออนาคตอีกยาวนานนับจากที่พระศรีศากยมุนีโคดมสัมมาสัมพุทธเจ้าปรินิพพาน

จุดที่สองที่คณะเราแวะคือวัดพระธาตุจอมทอง ตั้งอยู่ที่ถนนจอมทอง คร่อมระหว่างตำบลเวียง และตำบลบ้านต๋อม อำเภอเมืองพะเยา ตรงข้ามกับวัดศรีโคมคำ พระธาตุจอมทองมีฐานกว้าง ๙ เมตร สูง ๓๐ เมตร ประวัติวัดระบุว่าพระพุทธโฆษาจารย์ได้พระบรมสารีริกธาตุมาจากลังกา ได้ถวายให้พญาพังคราช กษัตริย์แคว้นโยนก และพญาพังคราชได้มอบต่อให้พญาเรือนแก้ว เพื่อมาสร้างพระธาตุจอมทองและบรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้ภายใน

ดิฉันพาคณะกราบรอยพระพุทธบาท พระเจ้าเกสรมุก ครูบาเจ้าศรีวิชัย บูรณะพระธาตุจอมทอง เมื่อ พ.ศ. 2466 (องค์พระธาตุเดิมก่ออิฐถือปูน พ.ศ. 2543 ครูบาเทือง นาถสีโล วัดบ้านเด่นสะหรีศรีเมืองแกน อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ได้มาบูรณะหุ้มแผ่นทองจังโก) วิหารเปื๋อย (คือไม่มีผนัง) ก็เป็นผลงานครูบาเจ้าศรีวิชัยเช่นกัน สร้างเมื่อ 2476 มีพระประธาน 3 องค์ เฉพาะวิหารใช้เงินจำนวน 631 รูเปีย 20 สตางค์ มีศาลาบาตรสร้างยื่นออกมา เขียนจารึกว่า “ครูบาแก้ว อุทิศถวายครูบาเจ้าศรีวิชัย ครูบาแก้ว วัดห้วยซาง บ้านโฮ้งมาบูรณะ”  

          รายละเอียดการบูรณะก่อสร้างเสนาสนะภายในวัดพระธาตุจอมทองของครูบาเจ้าศรีวิชัย ประกอบด้วย สร้างวิหารวัดพระธาตุจอมทอง ก่อกำแพง บูรณะพระธาตุ บูรณะพระพุทธรูป ใช้ปูนซีเมนต์ 25 ถัง ทองคำเปลว 252,635 แผ่น น้ำยางรักปริมาณ 100,000 ชาดปริมาณ 20,000 รวมทั้งหมดเป็นเงิน 100,961 รูเปีย 

          ประเพณีสรงน้ำพระธาตุ และสรงน้ำพระบาท ประจำปี ครูบาเจ้าศรีวิชัยกำหนดให้จัดในเดือน 6 เป็ง (เดือน 6 เหนือ) หรือเดือน 4 ใต้ 

ที่นี่พิเศษสุดคือ เปิดตัวสกายวอล์คแห่งใหม่ริมกว๊านพะเยา

จากนั้น สมาชิก สสทน. ทั้ง 17 จังหวัดภาคเหนือ ไปรวมตัวกันที่ โรงแรมพะเยาเกตเวย์ เจ้าของคือคุณพัฒน์ชญา จิตราพันธ์ทวี หรือ “เจ๊จู” เป็นนายก สสทน.พะเยา เพื่อลงทะเบียน พบปะสังสรรค์ เลือกซื้อของที่ระลึก จากนั้นมีการประชุมคณะกรรมการบริหาร สสทน. 

           ช่วงบ่าย สมาชิก สสทน.ลำพูน ร่วมทริปกับเพื่อน สสทน. อีก 16 จังหวัด ชม “ต้นทางแม่น้ำอิง” สถานที่ที่สามกษัตริย์ (พระญางำเมือง พระญามังราย และพระญาร่วง) ร่วมกรีดเลือดดื่มน้ำสาบานว่าจะเป็นสหายแท้ไม่รุกรานซึ่งกันและกัน ณ ขุนภู เดิมผู้จัดตั้งใจจะให้คณะนั่งเรือไปจนถึงจุดหมาย แต่ก่อนหน้านั้นเพียง 2 วัน กรมชลประทานแจ้งมาว่า ต้องขออภัยด้วยที่เกิดวิกฤติน้ำแล้งอย่างกระทันหัน เพราะต้องกันน้ำส่วนหนึ่งไว้ใช้ในการเกษตรส่งจ่ายให้แก่เกษตรกร

          คณะพวกเราลงเรือที่ท่า “ผีหลอก” นั่งเรือได้แค่ 100-200 เมตร ก็ต้องกลับท่าเดิม ต่อด้วยรถไปยังจุดเป้าหมายแทน อย่างไรก็ดี ทางทีมงานพะเยาได้เตรียมสถานที่อื่นชดเชยการที่เราไม่ได้นั่งเรือจนสุดสาย “ขุนภู” ด้วยการจัดให้คณะเราไปแวะชม “ต้นดอกคำใต้” ว่ามีรูปร่างหน้าตาอย่างไร ณ เทศบาลตำบลดอกคำใต้

จากนั้นไปชมพิพิธภัณฑ์เวียงพยาว ณ วัดลี ไฮไลต์ของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้คือมี พัดใบกก (ต้นกกจากกว๊านพะเยา) หนึ่งเดียวของครูบาเจ้าศรีวิชัย จัดแสดงอยู่ในอาคารชั้นบน วัดลีตั้งอยู่เลขที่ 51 บ้านหล่ายอิง ตำบลเวียง อำเภอเมืองพะเยา มีเจ้าอาวาส พระครูอนุรักษ์บุรานันท์(บุญชื่น ฐิตธมฺโม) ให้การต้อนรับบรรยาย

          วัดลีสร้างเมื่อ พ.ศ. 2038 โดยเจ้าสี่หมื่นพะเยา (เจ้าหมื่นหน่อเทพครู) เจ้าเมืองพะเยา สันนิษฐานว่าเป็นพระราชบุตรของพระญายุทธิษฐิระ ราชวงศ์พระร่วง มีพระมหาเถรปัญญาวังสะเป็นเจ้าอาวาสวัดลีรูปแรก คำว่า “ลี” ชื่อวัดเป็นภาษาล้านนาหมายถึง “ตลาด” แสดงถึงในอดีตบริเวณนี้เป็นจุดตั้งตลาดค้าขายของเมืองพะเยาจุดหนึ่ง

          วัดลีเป็นอีกแห่งที่เป็นผลงานของครูบาเจ้าศรีวิชัย ช่วงที่ทำการสร้างวิหารพระเจ้าตนหลวง ครูบาเขื่อนแก้ว คนฺธวํโส (ครูบาแก้ว) ลูกศิษย์ครูบาฯ ได้นิมนต์ครูบาฯ มาบูรณะวัดลีที่เป็นวัดร้าง ครูบาเจ้าศรีวิชัยมานั่งหนักและหมอบหมายให้ครูบาแก้ว เป็นผู้บูรณะและมอบเงินให้จำนวนหนึ่ง พร้อมส่งช่างมาบูรณะเมื่อ พ.ศ. 2477 (ช่วง พ.ศ. 2463 - 2478) (พ.ศ.2466 บูรณะพระธาตุวัดลี) 

          เอกสารจดหมายเหตุ สำนักราชเลขานุการในพระองค์ ร.8 26/21 แผนกที่ 22/2 เรื่องพระศรีวิชัยถวายพระราชกุศล (8-16 ตุลาคม 2478) ระบุว่า พ.ศ. 2477 ครูบาเจ้าศรีวิชัยได้มาสร้างกุฏิและบ่อน้ำใช้เงินจำนวน 669 รูเปีย 23 สตางค์ 

          มีการช่วยกันปั้นอิฐ ปูนและอิฐบางส่วนก็ซื้อ เจ้าภาพหลักปั้นอิฐคือพ่อเลี้ยงเมธา หมอรักษาคนบ้า ได้บอกบุญให้ผู้ที่เคยมารักษากับตนช่วยกันปั้นอิฐที่ริมบวกหมื่นแก้ว (บริเวณบ้านสันขะเจ๊าะกับบ้านเจดีย์งาม) นอกจากนี้ยังมีสิบตำรวจอ้าย แม่คำใส พูนชัย ปั้นอิฐและปูนมาถวาย ส่วนที่ใช้สออิฐเอาดินผสมมูลวัวมูลควายผสมน้ำผึ้งและอื่นๆ หมักไว้ บูรณะพระธาตุแล้วเสร็จ พ.ศ. 2466 เมื่อบูรณะพระธาตุเสร็จจะฉลองในเดือน 5เป็ง แต่ทราบข่าวครูบาเจ้าศรีวิชัยจะสร้างถนนขึ้นวัดพระธาตุดอยสุเทพจึงระงับไว้ก่อน ครูบาแก้ว คนฺธวํโส ได้นำพระสงฆ์สามเณรคณะศรัทธาวัดลีไปช่วยสร้างถนน เมื่อสร้างถนนเสร็จกลับมาฉลองพระธาตุในเดือน 9 เป็ง ครูบาเจ้าศรีวิชัยได้มอบตาลปัตรและบาตรไว้วัดลี ปัจจุบันเหลือเพียงตาลปัตร เดิมวัดลีมีพระสงฆ์ 30 - 40 รูป ปัจจุบันมีพระสงฆ์จำพรรษา 5 รูป 

          พ.ศ. 2480 ครูบาแก้ว คนฺธวํโส เตรียมสร้างวิหารหลังใหม่ ขณะหล่อเสาวิหาร ทราบข่าวครูบาเจ้าศรีวิชัยอาพาธหนัก จึงได้นำพระสงฆ์สามเณรคณะศรัทธาไปเยี่ยมที่จังหวัดลำพูน จนกระทั่งครูบาเจ้าศรีวิชัยมรณภาพก็กลับมาสร้างวิหารแล้วเสร็จ พ.ศ. 2481 วิหารหลวงมี 9 ห้อง มีประตูทางขึ้นทางเดียว ช่วงที่สร้างวิหารหลวงและบูรณะพระธาตุวัดลีมีพระลูกศิษย์ 2 รูปเป็นกำลังสำคัญคือ ครูบาแก้วมูล ญาณวุฑฺฒิ และครูบาปัญญา วิหารหลวงบูรณะครั้งหลังสุด พ.ศ. 2555 ใช้โครงหลังคาแบบวิหารวัดสวนดอก จังหวัดเชียงใหม่ แต่ย่อขนาดให้ย่อมลงมา มีงานประเพณีสรงน้ำพระธาตุวัดลีประจำ “เดือน 5 เป็ง” (เดือน 5 เหนือ ขึ้น 15 ค่ำ ประมาณเดือนกุมภาพันธ์)

ยามค่ำกลับมาโรงแรมพะเยาเกตเวย์ เปลี่ยนเครื่องแต่งกายเป็นชุดพื้นถิ่นประจำจังหวัด (ชุดพื้นเมืองประจำชาติพันธุ์ หรือชุดล้านนาประยุกต์) ในงานมีประกวดเครื่องแต่งกายดีเด่น รับประทานอาหารค่ำ พบปะสังสรรค์กับเพื่อน สสทน. 17 จังหวัด จำนวน 300 กว่าคน พิเศษสุดเมนูเด็ด “ปลาแม่น้ำจาก 8 อำเภอของพะเยา” ที่ไม่ซ้ำประเภท ฟังดนตรี “ล้านนาออร์เคสตรา”

วันพฤหัสบดีที่ 26 มกราคม คณะเราออกเดินทางไป “สวนหม่อน มัลเบอรี่” อ.ดอกคำใต้ เป็นแปลงหม่อนที่ผลิตสินค้าแปรรูปอย่างครบวงจร ทั้งเครื่องอุปโภค บริโภค จากนั้นคณะตรงไปยังโบราณสถานสำคัญอายุ 500 ปี “เวียงลอ” ณ อ.จุน ชมวิหารแบบโฟล์คอาร์ต และพิพิธภัณฑ์พระหินทรายสกุลช่างพะเยา

ที่นี่ชุมชนเข้มแข็งมาก มีมัคคุเทศก์ท้องถิ่นรอต้อนรับให้การบรรยาย จากนั้นมีการพาชมแหล่งต่างๆ ด้วยการนั่งรถ “ซาเล้ง” พ่วงข้างคันละ 2 คน (อุดหนุนชุมชนคันละ 200.-) เนื่องจากโบราณสถานในเขตเวียงลอแต่ละจุดอยู่ห่างไกลกันพอสมควร และมีจำนวนมากถึง 40 แห่ง หลายแห่งยังไม่มีชื่อเรียก ใส่หมายเลขไว้เฉยๆ ก่อน ช่วงรับประทานอาหารกลางวันที่เวียงลอนั้น มีนายกเทศมนตรีตำบลเวียงลอมาให้การต้อนรับ พร้อมช่างฟ้อนแสดง “ฟ้องเวียงลอ” ให้ชม

บริเวณเวียงลอพบศิลปะรุ่นเก่าถึงสมัยหริภุญไชย คือพระพิมพ์ดินเผาสกุลลำพูน คนโทน้ำต้นแบบไม่เคลือบเนื้อดินลำพูน สันนิษฐานว่าที่เวียงลอนี้มีอายุเก่าแก่มาตั้งแต่สมัยหริภุญไชยตอนปลายแล้ว คือประมาณ

พุทธศตวรรษที่ 17-18

          พื้นที่หมดเสียก่อน แต่เนื้อหายังไม่จบ ฉบับหน้าจะมาต่อทริปสหพันธ์สัญจรเมืองพะเยาต่อตอนสอง

1

ข่าวอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

ส่งมอบรถใหม่ Hyundai Creta Smart สีบรอนเงิน เป็นรถยนต์น่าใช้สำหรับครอบครัว

ที่ปรึกษาการขาย เอชดีเจมอเตอร์ ฮุนไดเชียงใหม่ เซลส์มุ้ย ร่วมแสดงความยินดีพร้อมส่งมอบรถใหม่ให้แก่ คุณมาลี ชัยอุปละHyundai Creta Smart สีบรอนเงิน ขอขอบคุณที่ให้เกียรติมาเป็นครอบครัวฮุนได สอบถามรายละเอีย...


  • ข่าวยานยนต์
  • |
  • 13 เม.ย. 2567, 07:30
  • |
  • 69

ส่งมอบรถใหม่ Hyundai H-1 Elite FE สีขาว รถยนต์น่าใช้สำหรับครอบครัว

ที่ปรึกษาการขาย เอชดีเจมอเตอร์ ฮุนไดเชียงใหม่ เซลส์แนน ร่วมแสดงความยินดีพร้อมส่งมอบรถใหม่ให้แก่ บจก.เอส ดี เมดิคอล เซอร์วิสเซส Hyundai H-1 Elite FE สีขาว ขอขอบคุณที่ให้เกียรติมาเป็นครอบครัวฮุนได สอบถา...


  • ข่าวยานยนต์
  • |
  • 7 เม.ย. 2567, 14:11
  • |
  • 64

ส่งมอบรถใหม่ Hyundai STARGAZER X สีขาว รถยนต์น่าใช้สำหรับครอบครัว

ที่ปรึกษาการขาย เอชดีเจมอเตอร์ ฮุนไดเชียงใหม่ เซลส์มุ้ย ร่วมแสดงความยินดีพร้อมส่งมอบรถใหม่ให้แก่ คุณภิญญดา มาศรีHyundai STARGAZER X สีขาว ขอขอบคุณที่ให้เกียรติมาเป็นครอบครัวฮุนได สอบถามรายละเอียดของรถ...


  • ข่าวยานยนต์
  • |
  • 7 เม.ย. 2567, 14:00
  • |
  • 71

โค้งสุดท้ายแล้วงาน MOTOR Sale โปรปัง "รับซัมเมอร์"3-9 เมษา 67 ลานโปรโมชั่น ชั้น G เซ็นทรัล...

เป็นการตัดสินใจของท่านเองล้วนๆในการเลือกซื้อรถยนต์ งานแสดงรถยนต์ สำหรับผู้ที่กำลังมองหารถยนต์เอาไปใช้สักคัน พลาดไม่ได้ต้องไปที่งาน มอเตอร์เซลส์ โปรปังรับซัมเมอร์ ระหว่างวันที่ 3-9 เมษายน 67 เรามาพบกัน...


  • ข่าวยานยนต์
  • |
  • 6 เม.ย. 2567, 10:24
  • |
  • 89

เริ่มแล้ววันนี้งาน MOTOR Sale โปรปัง "รับซัมเมอร์"3-9 เมษา 67 ลานโปรโมชั่น ชั้น G เซ็นทรัล...

เริ่มแล้ววันนี้ งานแสดงรถยนต์ สำหรับผู้ที่กำลังมองหารถยนต์เอาไปใช้สักคัน พลาดไม่ได้ต้องไปที่งาน มอเตอร์เซลส์ โปรปังรับซัมเมอร์ ระหว่างวันที่ 3-9 เมษายน 67 เรามาพบกันที่ ลานโปรโมชั่น ชั้น จี เซ็นทรัล เ...


  • ข่าวยานยนต์
  • |
  • 3 เม.ย. 2567, 14:42
  • |
  • 163

CHANGAN Sangchai เปิดจองแล้ว LUMIN Lรถไฟฟ้ามินิมอลน่าใช้ทดลองขับได้เลยวันนี้

พลาดไม่ได้สำหรับคนอยากมีรถยนต์ไฟฟ้าไปใช้ จะเอาไปทำงาน ไปส่งลูกไปโรงเรียนหรือจะเอาให้ลูกหลาน นิสิต นักศึกษาขับไปโรงเรียน มหาวิทยาลัย ที่มีระยะทาง ไป/กลับ ไม่ถึง 200 กิโล ก็สบายมาก เพราะ ฉาง อาน ลูมิน ช...


  • ข่าวยานยนต์
  • |
  • 2 เม.ย. 2567, 13:22
  • |
  • 118
Sytiq Company

ออกแบบพัฒนาโปรแกรมและแอพลิเคชั่น

โดยบริษัทไซทิค ติดต่อ:0819507128

Sytiq Company

ออกแบบและติดตั้ง Home Automation

โดยบริษัทไซทิค ติดต่อ:0819507128