พิพิธภัณฑ์เสรีไทยแพร่ : ปฏิบัติการลับ ในสมรภูมิรบ

ข่าวศิลปวัฒนธรรม , 5 มิ.ย. 2566, 13:26

พิพิธภัณฑ์เสรีไทยแพร่ : ปฏิบัติการลับ ในสมรภูมิรบ

พิพิธภัณฑ์เสรีไทยแพร่ : ปฏิบัติการลับ ในสมรภูมิรบ

       ในรั้วเดียวกันกับโรงแรมภราดร โรงแรมรุ่นแรกสุดในจังหวัดแพร่ บนถนนยันตรกิจโกศล เป็นที่ตั้งของ “พิพิธภัณฑ์เสรีไทยแพร่” สถานที่แห่งนี้มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์และศิลปสถาปัตยกรรม ทั้งตัวอาคารสีฟ้าอมเขียวที่ตกแต่งลวดลายฉลุแบบขนมปังขิง (อัตลักษณ์บ้านเรือนเมืองแพร่) ตามช่องแสงนิดหน่อยพองาม และทั้งนิทรรศการเรื่องเล่า วัตถุ ภาพถ่าย ที่จัดแสดงภายใน

          ดิฉันมาที่พิพิธภัณฑ์แห่งนี้มากกว่า 10 ครั้ง ส่วนใหญ่เป็นการพานักศึกษาคณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มาศึกษาเรียนรู้แหล่งสำคัญทางประวัติศาสตร์ของเมืองแพร่ ซึ่งพิพิธภัณฑ์เสรีไทยแพร่เป็นหนึ่งในสถานที่ที่ดิฉันเลือกมาตลอดด้วยความรู้สึกประทับใจ

          ล่าสุด ดิฉันได้พาเพื่อนสมาชิกและเครือข่ายสมาคมสหพันธ์ท่องเที่ยวภาคเหนือจังหวัดลำพูน (สสทน.ลำพูน) จำนวน 70 คน พร้อมด้วย สสทน.ลำปางอีก 20 รวมเป็น 90 คน ในกิจกรรม “สหพันธ์สัญจร เที่ยวเท่เสน่ห์แพร่” เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2566 ไปเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์เสรีไทยแพร่อีกครั้ง เช่นเดียวกับทุกๆ คราว ที่เจ้าของผู้ก่อตั้งพิพิธภัณฑ์คือ “คุณภุชงค์ กันทาธรรม” จะให้การต้อนรับขับสู้อย่างอบอุ่น ด้วยมิตรภาพที่มอบให้กันและกันมายาวนาน

          คุณภุชงค์ กันทาธรรม เป็นบุตรของ “ผู้แทนทอง กันทาธรรม” สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรคนแรกของจังหวัดแพร่ โดยคุณภุชงค์เล่าว่า “ผมเกิดปี 2485 หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 ลุกลามมายังบนแผ่นดินไทยได้ปีเดียว”

          ผลจากการที่รัฐบาลของจอมพล ป.พิบูลสงคราม เซ็นสัญญาเป็นพันธมิตรกับประเทศญี่ปุ่น ซึ่งอยู่ฝ่ายอักษะ ยอมเปิดทางให้กองกำลังทหารญี่ปุ่นยกพลขึ้นบกใช้ไทยเป็นทางผ่านไปยังพม่าและจีนตอนใต้อย่างสะดวกโยธินนั้น เท่ากับเรากำลังประกาศตัวเป็นศัตรูต่อมหาอำนาจค่ายตะวันตกฝ่ายสัมพันธมิตร อันมีอังกฤษ ฝรั่งเศส และสหรัฐอเมริกา เป็นยักษ์ใหญ่

          รัฐบุรุษนามอุโฆษผู้อยู่ในคณะรัฐบาลของจอมพล ป. ที่อดรนทนไม่ไหวเป็นรายแรกก็คือ “ดร.ปรีดี พนมยงค์” หรือ หลวงประดิษฐ์มนูธรรม ขณะนั้นดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เกิดมีปากมีเสียงกับนายกรัฐมนตรี จอมพล ป. จนต้องถูกปลดจากเสนาบดี ให้ไปรั้งตำแหน่ง “ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์” (ในหลวงรัชกาลที่ 8) เท่านั้น

          ภายในระยะเวลาเพียง 12 ชั่วโมง อาจารย์ปรีดีได้ระดมพลพรรคที่มีความเห็นพ้องต้องตรงกันว่า ภยันตรายน่าจะบังเกิดมีต่อสยามภายในเวลามิช้ามินานเป็นแน่แท้ เหตุที่ญี่ปุ่นมิได้ทำสงครามกับประเทศในทวีปเอเชียเพียงทวีปเดียวเท่านั้น ทว่ายังลุกลามข้ามมหาสมุทรแปซิฟิกไปแหย่เสือหลับอย่างอภิมหาอำนาจสหรัฐอเมริกาอีกด้วย โดยการบุกถล่มฐานทัพเรือ Pearl Harbor ที่ฮาวาย

          ดร.ปรีดี เป็นผู้มีวิสัยทัศน์ก้าวไกล มีประสบการณ์รับรู้ข่าวสารในโลกกว้าง มีสติปัญญาเฉลียวฉลาด ประจักษ์ชัดทันทีว่าในระยะยาวแล้ว ญี่ปุ่นไม่มีวันชนะอเมริกาได้เลย แต่ขณะนั้น ดร.ปรีดีมิอาจต้านทานกำลังความคิดแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาดของ “ผู้นำประเทศ” อย่างจอมพล ป.ได้ ทำให้เป็นที่มาของ “การเคลื่อนไหวใต้ดิน” หรือจะเรียกว่า “กลุ่มปฏิบัติการลับ” ซึ่งต่อมารู้จักกันในนามสากลว่า “ขบวนการเสรีไทย”

          กลุ่มคนที่เป็นลูกศิษย์ ผู้ใกล้ชิดของอาจารย์ปรีดี รวมทั้งกลุ่มปัญญาชน นักคิดนักเขียน นักเคลื่อนไหว ได้มาหลอมรวมตัวกันที่บ้านพักของอาจารย์ปรีดี ซึ่ง “ผู้แทนทอง กันทาธรรม” ก็เป็นหนึ่งในคนหนุ่มคนสาวผู้มีจิตใจเสียสละอย่างสูงสุดในขณะนั้นด้วย ทั้งยังเป็นความหวัง เป็นคนที่อาจารย์ปรีดีไว้ใจเลือกให้เป็น “หัวหน้าเสรีไทยภาคเหนือ” ซึ่งมีศูนย์กลางอยู่ที่จังหวัดแพร่

          ทำไมต้องเมืองแพร่? คุณภุชงค์อธิบายว่า เพราะแพร่เป็นเมืองเล็ก ไม่อยู่ในสายตาของพวกญี่ปุ่น ซึ่งคอยจดจ้องอยู่แต่เมืองใหญ่ๆ อย่างเชียงใหม่ เชียงราย หรือลำปาง อีกทั้งแพร่เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยป่าไม้ ภูเขา เหมาะที่จะใช้เป็นแหล่งซ่องสุมอาวุธและผู้คนในสงครามจรยุทธ เพื่อพรางตัวเวลาปฏิบัติการลับได้สะดวกกว่าจังหวัดอื่นๆ

          เสรีไทยแพร่ปฏิบัติการลับอะไรบ้าง? คุณภุชงค์บอกว่า หน้าที่หลักๆ คือทำสองภารกิจใหญ่นี้ให้สำเร็จ 1. ล้วงคองูเห่า สืบเสาะหาข้อมูลทุกๆ ความเคลื่อนไหว ทุกๆ ก้าวย่างของทหารญี่ปุ่น ที่ชอนไชอยู่ทั่วทุกหัวระแหงในแพร่ ลำปาง แล้วนำมารายงานแก่หัวหน้าเสรีไทย 2. ชายฉกรรจ์ที่สมัครใจมาเป็นเสรีไทยแล้ว ต้องหนักเอาเบาสู้ ยอมอดมื้อกินมื้อ ยอมฝึกอาวุธทุกประเภทอย่างทรหด เตรียมรบกับทหารญี่ปุ่นทุกวินาที

          ทั้งสองภารกิจหลักที่เสรีไทยทุกคนต้องยึดถือนี้ มิใช่ว่าสามารถกระทำโดยง่าย ด้วยเหตุที่ต้องแอบทำห้ามเปิดเผย ต้องเก็บทุกอย่างไว้เป็นความลับยิ่งชีวิต แม้แต่ลูกเมียพ่อแม่พี่น้อง ก็อย่าให้ระแคะระคาย เพราะอาจทำให้เกิดความกังวลหวาดระแวง สุดท้ายความลับแตก

          ด้วยเหตุนี้ คุณภุชงค์จึงกล่าวว่า “ระยะเวลา 3 ปีของขบวนการเสรีไทยที่เคลื่อนไหวทั่วประเทศ ระหว่าง พ.ศ. 2485-2488 ซึ่งมีคนเข้าร่วมกระบวนมากถึง 5 หมื่นกว่าชีวิตนั้น คือช่วงเวลาที่สยามวิกฤติหนักที่สุดแล้วในหน้าประวัติศาสตร์ ทว่าผลการตัดสินใจนำคนกลุ่มหนึ่งเข้าเป็นเสรีไทยของ ดร.ปรีดีนั้นใหญ่หลวงยิ่งนัก เพราะช่วยปลดแอกให้ไทยไม่ต้องอยู่ในกลุ่มประเทศผู้แพ้สงคราม หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 สงบลง ไม่อยากเชื่อจริงๆ ว่าข้อมูลเกี่ยวกับเหตุการณ์วิกฤติช่วงนี้กลับถูกกาลเวลากลบฝัง หลายครั้งที่ถูกพยายามทำให้ลืม แกนนำผู้ร่วมเป็นร่วมตายในสมรภูมิรบจำนวนมากถูกยิงทิ้ง ที่เหลือต้องอยู่อย่างหลบๆ ซ่อนๆ รวมถึงคุณพ่อของผม (ผู้แทนทอง) มิพักต้องพูดถึงการที่หัวหน้าเสรีไทยอย่าง ดร.ปรีดี ต้องถูกเนรเทศออกนอกขัณฑสีมา”

          “ด้วยความสะเทือนใจนี้เอง ผมจึงตัดสินใจยกบ้านที่ผมเติบโตมาหลังนี้ หรือกล่าวให้ถูกต้องก็คือบ้านของผู้แทนทอง จัดตั้งเป็นพิพิธภัณฑ์เสรีไทยแพร่ขึ้น ผมก่อตั้งพิพิธภัณฑ์มาได้ 16 ปีแล้ว แต่ละปีเราลงพื้นที่เก็บข้อมูลสัมภาษณ์บุคคลผู้อยู่ในเหตุการณ์จริง พาไปชี้จุดสถานที่จริงแทบทุกตารางนิ้วในหนองม่วงไข่ ก่อนที่คนเหล่านั้นจักล้มหายตายจากไปทีละรายสองราย หากรอช้ากว่านี้เกรงจักไม่ทันการณ์เสียแล้ว

          ขนาดว่าผมทุ่มเทสรรพกำลังอย่างเต็มที่ ก็ยังไม่อาจเก็บรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวกับเสรีไทยแพร่ได้ครอบคลุมทั้งหมด เนื่องจากเฉพาะที่แพร่ มีผู้ร่วมขบวนการจำนวนมากถึง 800-1,000 ราย แต่ละชีวิตล้วนมีประสบการณ์เฉพาะที่ชวนติดตาม ซึ่งผมยังรวบรวมรายละเอียดปลีกย่อยเหล่านี้ได้ไม่หมด”

          แม้กระนั้น พิพิธภัณฑ์เสรีไทยแพร่ของคุณภุชงค์ ก็ยังเต็มเปี่ยมด้วยเนื้อหาอันทรงคุณค่า ที่ท่านนำมาถ่ายทอดเป็นนิทรรศการได้มากถึง 4 ห้อง หรือ 4 โซน 

          โซนแรก โถงด้านหน้าติดประตู มีโต๊ะวางสมุดเซ็นเยี่ยม ส่วนนี้จัดแสดงรายชื่อผู้ร่วมขบวนการเสรีไทยที่เป็นแกนหลักทั่วทั้งประเทศ เท่าที่คุณภุชงค์และเครือข่ายจะรวบรวมมาได้ ซึ่งมีชื่อเรียกเป็นภาษาอังกฤษว่า “Operation Numeral” (ปฏิบัติการนิวเมอรัล) จากนั้นเน้นรายชื่อของขบวนการเสรีไทยภาคเหนือซึ่งมีศูนย์กลางที่แพร่ โดยมีผู้แทนทอง กันทาธรรม เป็นหัวหน้า 

โซนนี้กล่าวถึงความเคลื่อนไหวของผู้คนในหมู่บ้านหนองม่วงไข่ (เดิมเป็นตำบลที่ขึ้นกับอำเภอร้องกวาง ปัจจุบันแยกออกมาเป็นอำเภอหนองม่วงไข่แล้ว) โดยอาสาสมัครที่เข้าร่วมมีจำนวนมากถึง 500-800 คน (นานวันเมื่อลงเก็บข้อมูลสัมภาษณ์ยิ่งพบจำนวนคนที่มากขึ้นเรื่อยๆ) แต่ละคนจะต้องใช้ชีวิตอย่างทรหด ข้ามลำน้ำยมเข้าสู่ค่ายฝึกอาวุธที่ “แพะเปียง” จุดนี้เองคือศูนย์บัญชาการหรือกองอำนวยการหน่วยเสรีไทยแพร่ เป็นสถานที่ฝึกกองกำลังขนส่งอาวุธ และเป็นจุดทิ้งร่ม

          โซนที่สอง เป็นห้องจำลองของหน่วยปฏิบัติการ มีหุ่นสมาชิกเสรีไทยกับนายทหารอเมริกันคุยกัน โดยคุณภุชงค์เล่ารายละเอียดเนื้อหาตอนนี้ว่า คนไทยผู้นี้อยากได้ชุดเครื่องแบบของนายทหารอเมริกันมากเพราะเท่ดี โดยยื่นข้อเสนอด้วยการแลกกับเสื้อหม้อห้อมของเขา แรกๆ นายทหารอเมริกันไม่ตกลง แต่ชายคนนี้ยังคงตื๊อ ยอมมานั่งไกวเปลให้ทหารอเมริกันนอนหลับอยู่ราว 10 วัน ในที่สุดทหารอเมริกันใจอ่อนยอมแลกเสื้อเอาชุดหม้อห้อมไปใส่แทน

          มีหุ่นทหารอเมริกันจำลองในท่าโดดร่ม ซึ่งร่มนี้สังเกตให้ดีจะมีสองสี คือสีขาวกับสีเขียว ร่มสีขาวบรรจุเครื่องอุปโภคบริโภค อาหารและยา ทันทีที่โปรยลงมา เสรีไทยอาสาที่รวมตัวบนแพะเปียงต้องกุลีกุจอช่วยกันเก็บสิ่งของเครื่องใช้คนละไม้คนละมือให้เกลี้ยงโดยด่วน อย่าให้เหลือร่องรอย แล้วรีบเอาเสบียงอาหารไปซ่อนตามหลองเข้าหรือใต้ถุนเรือนแถวนั้น ก่อนที่ร่มชูชีพจักกลับคืนสู่เวหา ต้องเร่งทำเวลาเพื่อมิให้เป็นที่สังเกตของเหล่าทหารญี่ปุ่น

          ส่วนร่มสีเขียว บรรจุอาวุธยุทโธปกรณ์ ปืนกล ดาบต่างๆ นอกจากนี้ยังมีหุ่นจำลองของ นายอุทัย กันทาธรรม พี่ชายของผู้แทนทอง มาพร้อมกับจักรยานที่ใช้เป็นพาหนะติดต่อสื่อสารกับพลพรรคเสรีไทย เพื่อฝึกอาวุธ

          โซนที่สาม ส่วนนี้จัดแสดงข้าวของเครื่องใช้ อุปกรณ์ต่างๆ สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เช่นตะเกียงน้ำมันก๊าด วิทยุโทรเลข พิมพ์ดีดรุ่นโบราณ กับภาพถ่ายของบุคคลที่ร่วมเคลื่อนไหวในนามเสรีไทยสายต่างๆ ทั่วโลก อาทิ เสรีไทยสายอเมริกา เสรีไทยสายอังกฤษ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นปัญญาชน นักศึกษา นักการทูตทั้งสิ้น 

          โซนที่สี่ ส่วนในสุด จัดแสดงระเบิดปรมาณูจำลองสองลูก ที่เป็นตัวปิดฉากสงครามโลกครั้งที่ 2 ลูกแรกชื่อ Little Boy ทิ้งลงที่เมืองฮิโรชิมา กับอีกลูกชื่อ Fat Man ตอนแรกตั้งใจจะทิ้งที่เมืองโคคุระ แต่บรรยากาศลมฟ้าไม่เป็นใจ จึงไปตกที่เมืองนางาซากิแทน

          ในห้องนี้มีไฮไลต์ที่หุ่นขี้ผึ้งจำลองในพิธียุติสงคราม ด้วยการที่ตัวแทนเสรีไทย ทำหน้าที่เป็นทั้งนักโดดร่มและล่ามภาษาอังกฤษนาม ชโรช โล่ห์สุวรรณ (นักศึกษาไทยในอเมริกา ที่เดินทางกลับมาแพร่ ทำหน้าที่ล่ามให้นายทหารอเมริกันที่แพะเปียง) เป็นผู้แทนฝ่ายสัมพันธมิตร เข้ารับมอบดาบซามูไรจากนายทหารญี่ปุ่น เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นจริงที่จวนผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง เมื่อวันที่ 2 กันยายน 2488

          คุณภุชงค์กล่าวว่า “ทุกวันที่ 16 สิงหาคม ของทุกปีถือเป็นวันรำลึกถึงขบวนการเสรีไทย ทั้งสถานกงสุลอเมริกัน และสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) และลูกหลานทายาทเสรีไทยทั่วประเทศ จะมีการส่งตัวแทนมาร่วมจัดกิจกรรมพิเศษที่พิพิธภัณฑ์ของเรา ทุกวันนี้การรับรู้เรื่องเสรีไทยแพร่เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น ค่อยๆ กระจายไปสู่การเรียนการสอนวิชาประวัติศาสตร์ท้องถิ่นสำหรับเด็กนักเรียนชั้นประถมและชั้นมัธยมตามโรงเรียนต่างๆ ในจังหวัดแพร่อย่างทั่วถึงแล้ว

ผมหวังว่า เรื่องราวของเสรีไทยแพร่จักช่วยปลุกจิตสำนึกให้แก่ผู้มาเยือนพิพิธภัณฑ์ ให้ไม่หวั่นไหวต่อความเห็นผิดที่ให้แค่ประโยชน์เฉพาะหน้า ให้คงมั่นในอุดมการณ์ เสียสละความสุขส่วนตนเพื่อผลประโยชน์ส่วนรวมตลอดไป”

6

ข่าวอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

ใกล้เข้ามาแล้ว งานใหญ่ของคนซื้อรถ LANNA MOTOR SHOW รถใหม่ โปรจัดเต็ม 7-13 พ.ค.67 ที่ลานโปร...

โปรจัดเต็ม ของงานนี้มีอะไรบ้างท่านต้องแวะมาดูเอง จัดไม่ใกล้ไม่ไกลที่ลานโปรโมชั่น เซ็นทรัล เชียงใหม่ ( เซ็นเฟสฯ )ทำเลทองค่ายรถยนต์มากันที่นี่เกือบครบทั้งรถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์เครื่องยนต์ที่ใช้น้ำมัน ให้ท...


  • ข่าวยานยนต์
  • |
  • 2 พ.ค. 2567, 08:02
  • |
  • 88

พบกับ อีซูซุศาลาเชียงใหม่ ที่ “CNX Tattoo Festival” งานแสดงรอยสักและประกวดรอยสักแห่งภาคเหน...

พบกับ อีซูซุศาลาเชียงใหม่ ที่ “CNX Tattoo Festival” งานแสดงรอยสักและประกวดรอยสักแห่งภาคเหนือ ครั้งที่1  งานนี้นอกจากจะเจอกับเหล่าช่างสักระดับ Professional ทั่วโลกแล้ว  เรายังพา Isuzu X-serie...


  • ข่าวยานยนต์
  • |
  • 1 พ.ค. 2567, 17:15
  • |
  • 75

พบน้อง MC น่ารักในงาน LANNA MOTOR SHOW 7-13 พค.2567 ณ ลานโปรโมชั่น เซ็นทรัลเฟสฯเชียงใหม่

 งานลานนา มอเตอร์โชว์ 2024 ณ.ลานโปรโมชั่น ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เฟสติวัล เชียงใหม่ ระหว่างวันที่ 7-13 พฤษภาคม 2567 เป็นงานแสดงรถยนต์ครั้งยิ่งใหญ่ในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ รถใหม่ โปรจัดเต็ม ทุกรุ่น วัน...


  • ข่าวยานยนต์
  • |
  • 30 เม.ย. 2567, 07:56
  • |
  • 146
  • |
  • 1

ส่งมอบรถใหม่ Hyundai H-1 Elite FE สีขาว เป็นรถยนต์น่าใช้สำหรับครอบครัว

ที่ปรึกษาการขาย เอชดีเจมอเตอร์ ฮุนไดเชียงใหม่ เซลส์มุ้ย ร่วมแสดงความยินดีพร้อมส่งมอบรถใหม่ให้แก่ คุณเดชธีรรัตน์ ตระกูลศิวาโมกข์ Hyundai H-1 Elite FE สีขาวขอขอบคุณที่ให้เกียรติมาเป็นครอบครัวฮุนได สอบถา...


  • ข่าวยานยนต์
  • |
  • 27 เม.ย. 2567, 05:07
  • |
  • 54

ส่งมอบรถใหม่ Hyundai STARIA Style สีเทา เป็นรถยนต์น่าใช้สำหรับครอบครัว

ที่ปรึกษาการขาย เอชดีเจมอเตอร์ ฮุนไดเชียงใหม่ เซลส์มุ้ย ร่วมแสดงความยินดีพร้อมส่งมอบรถใหม่ให้แก่ คุณกรณ์กาญจน์ สุทธะป๊อก Hyundai STARIA Style สีเทา ขอขอบคุณที่ให้เกียรติมาเป็นครอบครัวฮุนได สอบถามรายละ...


  • ข่าวยานยนต์
  • |
  • 25 เม.ย. 2567, 15:26
  • |
  • 65

ส่งมอบรถใหม่ Hyundai Creta Style Plus สีขาว เป็นรถยนต์น่าใช้สำหรับครอบครัว

ที่ปรึกษาการขาย เอชดีเจมอเตอร์ ฮุนไดเชียงใหม่ เซลส์มุ้ย ร่วมแสดงความยินดีพร้อมส่งมอบรถใหม่ให้แก่ คุณทักษิณานันท์ ดอนชัย Hyundai Creta Style Plus สีขาว ขอขอบคุณที่ให้เกียรติมาเป็นครอบครัวฮุนได สอบถามรา...


  • ข่าวยานยนต์
  • |
  • 24 เม.ย. 2567, 18:27
  • |
  • 69
Sytiq Company

ออกแบบพัฒนาโปรแกรมและแอพลิเคชั่น

โดยบริษัทไซทิค ติดต่อ:0819507128

Sytiq Company

ออกแบบและติดตั้ง Home Automation

โดยบริษัทไซทิค ติดต่อ:0819507128