ระดมกึ๋นรวบรวมความคิดเห็นในการแก้ไขปัญหาความเลื่อมล้ำทางการศึกษาจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง

ข่าวการศึกษา , 30 มิ.ย. 2566, 11:32

ระดมกึ๋นรวบรวมความคิดเห็นในการแก้ไขปัญหาความเลื่อมล้ำทางการศึกษาจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง

เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2566 นายวรวิทย์ ชัยสวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกล่าวต้อนรับภาคีเครือข่ายที่เข้าร่วมการประชุมรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ 4 ภูมิภาค เพื่อรวบรวมความคิดเห็นในการแก้ไขปัญหาความเลื่อมล้ำทางการศึกษาจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง นำสู่การกำหนดกรอบทิศทางการดำเนินงานในปีงบประมาณ พ.ศ.2568-2570 ณ ห้องอิมพีเรียลบอลลูม ชั้น 2 โรงแรมดิเอ็มเพรส เชียงใหม่ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่
 

รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า  เชียงใหม่ถือเป็นเมืองศูนย์กลางในหลากหลายด้านมาตั้งแต่อดีต และดึงดูดคนจากพื้นที่ข้างเคียงให้เข้ามาอยู่ในพื้นที่มาโดยตลอด ในมิติทางการศึกษาและศาสนาถือว่าเป็นเมืองที่มีความโดดเด่น ทั้งการเป็นสถานที่สังคายนาพระไตรปิฎกฉบับแรกในภูมิภาคนี้ ณ วัดเจ็ดยอด ในปี พ.ศ. 2020แสดงถึงความก้าวหน้าของการศึกษาและศาสนา  ในปัจจุบันเชียงใหม่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องในฐานะหนึ่งในเมืองศูนย์กลางภาคเหนือ โดยมีผลิตภัณฑ์มวลรวมระดับจังหวัดและผลิตภัณฑ์มวลรวมต่อหัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
 

ข้อมูลจากสำนักจัดหางานเชียงใหม่ ประจำเดือนพฤษภาคม 2566 พบว่า ตำแหน่งงานประเภทอุตสาหกรรมมีความต้องการจ้างงานมากที่สุด ประเภทการผลิตจำนวน 632 อัตรา รองลงมาคือ ประเภทกิจกรรมการขายส่งและการขายปลีก การซ่อมยานยนต์ และจักรยานยนต์ จำนวน 180 อัตรา ประเภทที่พักแรมและบริการด้านอาหาร จำนวน 72 อัตรา จากตำแหน่งงานทั้งสิ้น 1,040 อัตรา ซึ่งทำให้เห็นทิศทางการเติบโตของภาคส่วนต่าง ๆ ของเชียงใหม่ที่สัมพันธ์กับการพัฒนาทรัพยากรบุคคลของจังหวัดที่เกี่ยวเนื่องเชื่อมโยงโดยตรงกับมิติของการพัฒนาด้านการศึกษาและการเรียนรู้ เชียงใหม่มีโรงเรียนทั้งหมด 959 โรงเรียน ในขณะเดียวกัน ด้วยผู้คนและภูมิประเทศที่มีความแตกต่างหลากหลาย เชียงใหม่จึงเป็นจังหวัดหนึ่งที่มีความแตกต่างทางบริบท ตั้งแต่เขตภูเขาสูงไปจนถึงที่ราบริมแม่น้ำ การจัดการศึกษาจึงเป็นไปได้หลายรูปแบบ เช่น การจัดการศึกษาแบบ “โรงเรียนสัมมาชีพ” สำหรับเด็กกลุ่มชาติพันธุบนพื้นที่สูงในโรงเรียนสาธิต โรงเรียนทางเลือก
 

นอกจากนี้เชียงใหม่ยังมีพื้นที่และแหล่งเรียนรู้ทั้งมิติธรรมชาติ วัฒนธรรม สังคมและช่างพื้นบ้าน นั่นสะท้อนให้เห็นถึงประตูของโอกาสทางการศึกษาและเรียนรู้ของเชียงใหม่นั้นมีหลากหลายประตู และเปิดกว้างเพื่อรับผู้สนใจการเรียนรู้ แต่อย่างไรก็ดี จากข้อมูลของกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา ทำให้ทราบว่า แม้ว่าประตูการเรียนรู้จะเปิดกว้างแต่ยังมีเด็กและเยาวชนจำนวนไม่น้อยที่เข้าไม่ถึงโอกาสทางการศึกษาด้วยเงื่อนไขที่แตกต่างกัน จากข้อมูลที่กล่าวถึงข้างต้นพบว่า เชียงใหม่มีนักเรียนยากจนและยากจนพิเศษ  49,066 คน ซึ่งมีชีวิตที่ผันผวนและมีความเสี่ยงที่จะหลุดออกจากระบบการศึกษาเพราะความยากจน คิดเป็นประมาณเกือบร้อยละ 20 ของนักเรียนทั้งหมดในเชียงใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มที่มีความยากจนพิเศษที่มีความเปราะบางและความเสี่ยงมากที่สุดถึง 34,272 คน ไม่นับกับเด็กและเยาวชนที่ถึงจะมีโอกาสในการเข้าถึงการศึกษา และมีความเสี่ยงต่ำในมิติของรายได้และฐานะ แต่กลับมีความเสี่ยงจากปัญหาที่มีผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงทางสังคม เช่น ปัญหาการเรียนรู้ถดถอยจากสถานการณ์โควิด ตั้งครรภ์ไม่พร้อม ปัญหายาเสพติด เด็กและเยาวชนในสถานพินิจ เป็นต้น ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่เดินควบคู่ไปกับความต้องการในการพัฒนาจังหวัด 
 

จากข้อมูลในข้างต้น ทราบมาว่าหลายส่วนของเชียงใหม่ที่กำลังทำงานร่วมกันกับ กสศ.ในประเด็นการลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา และมีทุนตลอดจนตัวแบบการทำงานในพื้นที่เชียงใหม่ เพื่อช่วยเหลือ ดูแล และส่งต่อ เด็กและเยาวชนในหลายมิติ ได้แก่ (1) การเข้าถึงโอกาสทางการศึกษา (Learning Access) (2) คุณภาพการศึกษา (Learning Outcome) ควบคู่ไปกับ(4) การเปลี่ยนแปลงเชิงระบบ โดยมีการสนับสนุนทุนกับเด็กยากจนพิเศษในจังหวัดเชียงใหม่ในปีการศึกษา 1/2565 จำนวนในมิติการเข้าถึงโอกาสทางการศึกษานั้น จังหวัดเชียงใหม่มีจำนวนเด็กยากจนพิเศษที่ได้รับเงินอุดหนุนจำนวน 34,272 คน ครอบคลุมนักเรียนใน 26 อำเภอของเชียงใหม่  เพื่อให้เด็กเหล่านี้ สามารถมาเรียนได้ในทุกวัน อยู่ในสายตาของคุณครู และป้องกันเด็กยากจนเหล่านี้หลุดออกจากระบบการศึกษา นอกจากนี้ ยังทำงานร่วมกับสถานบันอาชีวศึกษาและระดับอุดมศึกษา เพื่อให้เด็กยากจนได้ศึกษาต่อในระดับอาชีวศึกษาหรือหลักสูตรระยะสั้นที่จำนวน 6 สถาบัน มีนักเรียนได้รับทุน 232 คน และผ่าน 13 สาขาวิชาชีพ เพื่อส่งเสริมให้เยาวชนที่เรียนดีแต่ยากจน เข้าถึงโอกาสในการยกระดับด้านการศึกษาที่สามารถนำไปสู่การเปลี่ยนสถานะของครอบครัวได้ในอนาคต 
 

ในมิติคุณภาพการศึกษา จังหวัดเชียงใหม่ร่วมกับ กสศ. มีการดำเนินโครงการเพื่อพัฒนาครูและโรงเรียนผ่านโครงการพัฒนาครูและสถานศึกษา TSQP : Teacher and School Quality Programจำนวน 67 โรงเรียน ใน 26 อำเภอ และทำการพัฒนาอาชีพให้กับแรงงานนอกระบบผ่านทุนพัฒนาอาชีพจำนวน 1,251 คน หน่วยจัดการเรียนรู้ 18 องค์กร เพื่อแก้ไขปัญหาของแรงงานที่ยากจนและด้อยโอกาสเพื่อให้การดูแลปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาเป็นของคนเชียงใหม่เองในระยะยาว หน่วยงานหลักทั้งของภาครัฐและเอกชน ได้ร่วมกันพัฒนา “กลไกจัดการศึกษาเชิงพื้นที่เพื่อลด ความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา” ที่ดำเนินมาในช่วง 2562-2563 
 

โดยมี “ภาคีเชียงใหม่เพื่อปฏิรูปการศึกษา” ที่มีองค์ประกอบมาจากหน่วยงาน องค์กรที่มีความตั้งใจในการดำเนินงานลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาทั้งภาครัฐ ภาคท้องถิ่น ภาคเอกชน สถาบันวิชาการ สื่อสารมวลชน และภาคประชาสังคม อาทิ ศึกษาธิการจังหวัดเชียงใหม่ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดเชียงใหม่ สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ท้องถิ่นจังหวัด องค์กรบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ โดยมีเป้าหมายเพื่อเชื่อมร้อยหน่วยงาน องค์กรต่าง ๆ ที่ทำงานภายใต้เป้าหมายเดียวกันให้เข้ามาร่วมกันดูแล ส่งต่อการช่วยเหลือกับเด็กและเยาวชนในจังหวัดเชียงใหม่ในทุกช่วงวัย โดยเริ่มต้นดำเนินการในส่วนของเด็กปฐมวัยและเด็กและเยาวชนที่หลุดออกจากระบบการศึกษา โดยในช่วงที่ผ่านมาจังหวัดเชียงใหม่สามารถลดความเหลื่อมล้ำทางด้านการศึกษาในมิติต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี และนอกจากนี้ยังมีทุนอื่น ๆ จากหน่วยงานหลากหลายที่เชียงใหม่จะสามารถนำไปสู่การสร้างความเสมอภาคทางการศึกษา และการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์เพื่อการพัฒนาจังหวัดในอนาคต
 

สำหรับการประชุม “เวทีระดมพลังความร่วมมือขับเคลื่อนอนาคตความเสมอภาคทางการศึกษาไทยอย่างยั่งยืน” ในครั้งนี้ ในฐานะเจ้าภาพด้านสถานที่ ถือว่าเป็นโอกาสอันดีที่จะได้รับฟังเสียงสะท้อนจากผู้ทรงคุณวุฒิและผู้ปฏิบัติการจริงในระดับพื้นที่เรื่องการลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ซึ่งจะเป็นประโยชน์ไม่เฉพาะกับกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษาที่เป็นเจ้าภาพจัดงานเท่านั้น แต่ยังเป็นประโยชน์ต่อการทำงานของผู้เกี่ยวข้องในเรื่องนี้ในจังหวัดเชียงใหม่ซึ่งเข้าร่วมเวทีในครั้งนี้หลายท่าน รวมไปถึงเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ เพราะการลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาเป็นประตูด่านแรกของการพัฒนาทรัพยากรที่มีคุณภาพให้กับประเทศ เพื่อให้ทรัพยากรบุคคลเหล่านี้ได้ร่วมกันพัฒนาประเทศให้ดียิ่งขึ้นไปในอนาคต 
 

โดยต่อจากนั้น เมื่อเวลา 10.30 น. นายธฤติ ประสานสอน ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมโครงการโรงเรียนพัฒนาตนเอง (TSQP) และโครงการจัดสรรอุดหนุนนักเรียนยากจนพิเศษแบบมีเงื่อนไข (ทุนเสมอภาค) ที่โรงเรียนบ้านศาลา ต.ดอนแก้ว อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ซึ่งมี ดร.ไกรยส ภัทราวาท ผู้จัดการกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) นางรสชรินทร์ คำโพธิ์ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านศาลา พร้อมผู้บริหาร คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียน และบุลคลากรทางการศึกษาเข้าร่วมกว่า 20 คน
 

นายธฤติ กล่าวว่า การตรวจเยี่ยมโครงการดังกล่าว เพื่อสร้างความร่วมมือทางการศึกษา เพื่อสร้างความเสมอภาคโอกาส ความเท่าเทียมการศึกษาไทย โดยเฉพาะนักเรียนยากจน และยากจนพิเศษ พร้อมเติมเต็มโอกาสให้นักเรียนชาติพันธุ์ กระบวนการเรียนรู้ ทางภูมิสังคม และสนับนุนนวัตกรรมการศึกษาในรูปแบบใหม่ โดยให้ทุนนักเรียนยากจนที่อยู่ในข่ายกว่า 9 ล้านคน ซึ่งมีนักเรียนที่ได้รับทุนดังกล่าวสะสมกว่า 1 ล้านคนแล้ว ส่วนใหญ่เป็นระดับประถม และมัธยมต้น นอกนั้นเป็นระดับอาชีวะ และมหาวิทยาลัย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการจัดสรรงบประมาณจากรัฐบาลด้วย
 

ด้านนางรสชรินทร์ กล่าวว่า โรงเรียนได้เข้าโครงการโรงเรียนพัฒนาตนเอง (TSQP)มากว่า 3 ปีแล้ว เพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษา และช่วยเหลือเด็กกลุ่มเสี่ยงหลุดจากระบบการศึกษาพร้อมสร้างเครือข่ายหรือเน็ตเวิล์ค ขององค์ความรู้โรงเรียนสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.)เชียงใหม่ มีเป้าหมายเพื่อให้นักเรียนมีความรู้ และความสุขทางการศึกษา สามารถคิด วิเคราะห์ แยกแยะ และกล้าแสดงออก ทำให้เด็กหลังห้องมีความสุขในการเรียน และมาเรียนที่หน้าชั้นเรียนมากขึ้น


ข่าวอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

เริ่มไปแล้ววันนี้งานแสดงรถยนต์ ETON CHIANGMAI EXPO 2024 ณ เซ็นทรัลเชียงใหม่ เฟสฯ 26 พย.ถึง...

ในงานท่านจะได้พบกับรถยนต์นำเข้าหลายรุูปแบบ ทั้งเครื่องยนต์สันดาป,ไฮบริด และรถยนต์ไฟฟ้า100% ที่นำมาเปิดรับจองสำหรับท่านที่สนใจอยากได้รถยนต์ไปใช้งาน เรามีข้อเสนอพิเศษเฉพาะคุณที่สนใจเชิญแวะมาหาเราได้ที่...


  • ข่าวยานยนต์
  • |
  • 26 พ.ย. 2567, 13:40
  • |
  • 40

ส่งมอบไปอีกคันแล้ว ฟอร์ด EV 2.0L Turbo Sport 4x2 6AT-DAT64(22B) เป็นรถยนต์ที่น่าใช้

 ส่งมอบรถยนต์น่าใช้ให้กับลูกค้า โดยที่ปรึกษาการขาย ดวงพร กิ่งจำปา  ร่วมแสดงความยินดีกับคุณ เดนนิช สุขสวัสดิ์  มารับ ฟอร์ด EV 2.0L Turbo Sport 4x2 6AT-DAT64(22B) ไปจากโชว์รูม ขอบคุณที่ ใ...


  • ข่าวยานยนต์
  • |
  • 23 พ.ย. 2567, 14:59
  • |
  • 69

ส่งมอบไปอีกคันแล้ว ฟอร์ด EV 2.0L Turbo Sport 4x2 6AT-DAT64(22B) เป็นรถยนต์ที่น่าใช้

 ส่งมอบรถยนต์น่าใช้ให้กับลูกค้า โดยที่ปรึกษาการขาย ดวงพร กิ่งจำปา  ร่วมแสดงความยินดีกับคุณ เดนนิช สุขสวัสดิ์  มารับ ฟอร์ด EV 2.0L Turbo Sport 4x2 6AT-DAT64(22B) ไปจากโชว์รูม ขอบคุณที่ ใ...


  • ข่าวยานยนต์
  • |
  • 23 พ.ย. 2567, 14:57
  • |
  • 54

ส่งมอบไปอีกคันแล้ว ฟอร์ด Double Cab Wildtrak 2.0L Turbo HR 6AT เป็นรถยนต์ที่น่าใช้

 ส่งมอบรถยนต์น่าใช้ให้กับลูกค้า โดยที่ปรึกษาการขาย เกลดา อินทะนะ ร่วมแสดงความยินดีกับ คุณ เฉลิมชัย คำแปง มาถอย ฟอร์ด Double Cab Wildtrak 2.0L Turbo HR 6AT ไปจากโชว์รูม ขอบคุณที่ ให้เกียรติมาเป็นค...


  • ข่าวยานยนต์
  • |
  • 23 พ.ย. 2567, 14:52
  • |
  • 61

ส่งมอบไปอีกคันแล้ว ฟอร์ด EV 2.0L Turbo Sport 4x2 6AT-DAT64(22B) เป็นรถยนต์ที่น่าใช้

 ส่งมอบรถยนต์น่าใช้ให้กับลูกค้าโดยที่ปรึกษาการขาย หฤทัย สมวงค์แก้ว ร่วมแสดงความยินดีกับ คุณ สุรพล อรทัย มาถอย ฟอร์ด EV 2.0L Turbo Sport 4x2 6AT-DAT64(22B) ไปจากโชว์รูม ขอบคุณที่ ให้เกียรติมาเป็นค...


  • ข่าวยานยนต์
  • |
  • 23 พ.ย. 2567, 14:43
  • |
  • 65

ส่งมอบไปอีกคันแล้ว ฟอร์ด Double Cab Sport 2.0L Turbo HR 6AT เป็นรถยนต์ที่น่าใช้

 ส่งมอบรถยนต์น่าใช้ให้กับลูกค้าโดยที่ปรึกษาการขาย ภุชงค์ ชมจำปี ร่วมแสดงความยินดีกับ คุณ สุทธิดาภรณ์ สายใจ ที่มาถอย ฟอร์ด Double Cab Sport 2.0L Turbo HR 6AT  ไปจากโชว์รูม ขอบคุณที่ ให้เกียรต...


  • ข่าวยานยนต์
  • |
  • 23 พ.ย. 2567, 14:39
  • |
  • 68
Sytiq Company

ออกแบบพัฒนาโปรแกรมและแอพลิเคชั่น

โดยบริษัทไซทิค ติดต่อ:0819507128

Sytiq Company

ออกแบบและติดตั้ง Home Automation

โดยบริษัทไซทิค ติดต่อ:0819507128