เวียงเจ็ดลิน เวียงโบราณในตำนานยุคก่อนล้านนา

ข่าวศิลปวัฒนธรรม , 18 ก.ค. 2566, 22:39

เวียงเจ็ดลิน เวียงโบราณในตำนานยุคก่อนล้านนา

          เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2566 ดิฉันได้รับเชิญจากคณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลวิทยาเขตพายัพ (เจ็ดยอด) เป็นวิทยากรบรรยายเรื่อง “เวียงเจ็ดลิน” ให้นักศึกษาปริญญาโทฟัง ซึ่งขอสารภาพว่าเรื่องเวียงเจ็ดลินนี้ ดิฉันเคยศึกษาไว้นานมากแล้วตั้งแต่ปี 2555 หลังจากนั้นก็ยังไม่ได้จับประเด็นนี้มาวิเคราะห์ อีกเลย แม้กระนั้นดิฉันมีมุมมองและข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับเวียงโบราณแห่งนี้มากพอ ทั้งค่อนข้างจะรอบด้านพอสมควร โดยดิฉันแบ่งการนำเสนอออกเป็น 6 หัวข้อ ดังนี้

  1. เวียงเจ็ดลินกับผังเมืองวงกลม
  2. เวียงเจ็ดลินกับฤๅษีวาสุเทพ
  3. เวียงเจ็ดลิน ยุคล้านนาหลักฐานด้านศิลาจารึก
  4. เวียงเจ็ดลินกับหลักฐานด้านโบราณคดีของกรมศิลปากร
  5. การลงพื้นที่สำรวจเวียงเจ็ดลินของผู้เขียน
  6. หลักฐานอันซีน ที่รอการพิสูจน์

เวียงเจ็ดลินกับผังเมืองวงกลม

          เวียงเจ็ดลินเมื่อมองจากแผนที่ทางอากาศมีผังรูปวงกลม ถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มเวียงโบราณรุ่นเก่าที่มีมาก่อนการสร้างเมืองเชียงใหม่ ซึ่งนัยยะของการสร้างผังเมืองรูปวงกลมนั้น อธิบายได้สองนัยยะ

     นัยยะแรก ผังแบบนี้สร้างขึ้นตามแนวคิดของกลุ่มคนที่นับถือ “นาค” ผังวงกลมเทียบได้กับการที่เรายืนอยู่ตรงจุดศูนย์กลางแล้วจับหางนาคยึดไว้คล้ายแกนเขาพระสุเมรุ ปล่อยให้เศียรนาคแกว่งไปรอบๆ ให้เขี้ยวนาคจิกดินกวาดไปโดยรอบคล้ายวงเวียน ก็จะได้ผังรูปวงกลม อันเป็นผังแบบดั้งเดิม

นัยยะที่สอง อธิบายตามหลักภูมิศาสตร์และธรณีวิทยา แนวคิดนี้ดิฉันได้รับการแลกเปลี่ยนกับ ดร.อติชาติ สุรินทร์คำ มองว่าการออกแบบผังรูปวงกลมเกิดจากความจำเป็นของการที่จุดนั้น น่าจะเป็นจุดที่ต้องรองรับแรงปะทะของกระแสน้ำที่หลากเชี่ยว เมื่อสายน้ำมาชนจุดโค้งด้านหน้าของวงกลม จะกระจายไหลออกสองข้าง ไม่กัดเซาะตัวกำแพงเมือง ผิดกับหากออกแบบเป็นผังรูปสี่เหลี่ยม น้ำจะทะลักเข้าสู่กำแพง ไม่ออกด้านข้าง

ไม่ว่าการสร้างผังเมืองรูปวงกลมของเวียงเจ็ดลิน จะเกิดขึ้นด้วยตรรกะใดก็ตาม นักโบราณคดีพบว่า มีเมืองโบราณจำนวนไม่น้อยเลยในอุษาคเนย์ที่สร้างผังเมืองเป็นรูปวงกลมอย่างโดดเด่น อาทิ รัฐศรีเกษตร (พยู่) ในพม่า หรือเมืองโบราณบึงคอกช้าง อุทัยธานี เป็นต้น

นอกจากนี้ ยังมีผังเมืองกึ่งวงกลมกึ่งสี่เหลี่ยม เรียกว่าสี่เหลี่ยมมุมมน เป็นเมืองรุ่นเก่ายุคทวารวดี พบมากแถบลุ่มเจ้าพระยาภาคกลาง เช่น เมืองโบราณจันเสน ต.ตาคลี จ.นครสวรรค์ เมืองอินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี เมืองขีดขิน จ.สระบุรี เมืองโบราณอู่ตะเภา จ.ชัยนาท และดงแม่นางเมือง จ.นครสวรรค์ เป็นต้น

เวียงเจ็ดลินกับฤๅษีวาสุเทพ

การรับรู้ความเป็นมาเรื่องเวียงเจ็ดลินที่ฤๅษีสร้างนั้น มีสองเวอร์ชั่น เวอร์ชั่นแรก ระบุว่าเวียงเจ็ดลินมีความเกี่ยวข้องกับตำนานเจ้าหลวงคำแดง ในตอนที่เจ้าชายสุวัณณะคำแดงได้ตามรอยเท้าเนื้อทรายทอง (นางอินเหลาแปลงร่างมาล่อ) จากเชียงดาวจนมาถึงเชิงเขาอุจฉุบรรพต คือบริเวณดอยสุเทพในปัจจุบัน จนเจ้าชายได้พบฤๅษีตนหนึ่งที่ดูแลบริเวณนี้ ต่อมาพื้นที่นี้ได้พัฒนาเป็นเวียงเชษฐบุรี (เชษฐริน เวียงเจ็ดลิน)

อีกเวอร์ชั่นหนึ่ง ตำนานมูลศาสนา ชินกาลมาลีปกรณ์กล่าวถึงฤๅษีวาสุเทพสร้างเมืองให้มนุษย์ที่เกิดใน “รอยเท้าสัตว์” อาศัยอยู่ 4 เมือง เมืองสำคัญที่สุดที่อยู่ตีนดอยสุเทพมีชื่อว่า มิคสังครนคร (สมันตรประเทศ) เมืองนี้น่าจะอยู่ตรงบริเวณเวียงเจ็ดลิน เพียงแต่ว่ายุคแรกสร้างยังไม่ได้ใช้ชื่อ เวียงเจ็ดลิน

หากเวียงเจ็ดลินที่ตีนดอยสุเทพเก่าถึงยุคฤๅษีวาสุเทพจริง ก็ย่อมหมายความว่า เวียงแห่งนี้น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการตั้งถิ่นฐานของขุนหลวงวิรังคะด้วย ปัญหามีอยู่ว่า “เวียงเจ็ดลิน” จักมีหลักฐานทางด้านโบราณคดีมารองรับความเก่าแก่ถึงยุคหริภุญไชยมากน้อยแค่ไหน ประเด็นนี้ ยังเป็นข้อถกเถียงกันอยู่มาก

เวียงเจ็ดลิน ยุคล้านนาหลักฐานด้านศิลาจารึก

          ชื่อเวียงเจ็ดลินปรากฏครั้งแรกในจารึกสุวรรณมหาวิหาร พบที่จังหวัดพะเยา เขียนด้วยตัวอักษรฝักขาม เดิมจัดแสดงในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หริภุญไชย ใช้เลขทะเบียน ลพ.9 ปัจจุบันจัดแสดงที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเชียงแสน จังหวัดเชียงราย จารึกนี้กล่าวถึงพระญาสามฝั่งแกน กษัตริย์ล้านนาลำดับที่ 8 (ครองราชย์ระหว่าง พ.ศ. 1945–1984) โปรดให้สร้างวัดสุวรรณมหาวิหารและเวียงเจ็ดลินในปีเดียวกัน คือ พ.ศ.1954 ตามที่จารึกไว้ค่อนข้างยาวตั้งแต่บรรทัดที่ 10-22 ว่า “แปลงเวียงเจ็ดลิน ผิจะถวิลด้วยปีไทไซร้ ปีรวงเหม้า (ปีเถาะ) เข้ามาในเดือน 11 ออก 6 ค่ำ วันจันทร์ ทันยามตะวันเที่ยง”

          แปลความได้ว่า หากผู้ใดอยากรู้ว่าเจ้ามหาราช (สามฝั่งแกน) ได้หลั่งน้ำลงเหนือที่ดินที่อุทิศแก่พระสุวรรณมหาวิหารในปีใด เดือนใด ให้รู้ไว้ดังนี้ว่า ครั้งเมื่อเจ้ามหาราชมีศรัทธาหลั่งน้ำอุทิศที่ดินแก่พระสุวรรณมหาวิหารนั้น ตรงกันกับปีที่สร้างเวียงเจ็ดลิน คือปีรวงเหม้า หรือปีเถาะ อัฐศกของไทภาคเหนือ ตรงกับ พ.ศ.1954

          คำว่า “สร้างเวียงเจ็ดลิน” ไม่น่าจะหมายถึงว่า พระญาสามฝั่งแกนสร้างเวียงขึ้นใหม่ทั้งหมดด้วยพระองค์เอง ด้วยเวียงแห่งนี้ย่อมต้องมีมาก่อนแล้ว คำว่า “สร้าง” น่าจะหมายถึงการสร้างที่ประทับในผังเวียงรูปวงกลมที่มีมาแต่เดิมมากกว่า

ขณะที่ตํานานพื้นเมืองเชียงใหม่กล่าวถึงเวียงเจ็ดลินว่าเป็นเมืองที่ตั้งบนที่สูง สามารถมองเห็นทำเลและภูมิประเทศของเมืองเชียงใหม่ได้ด้วยตาเปล่า เหมาะที่จะใช้เป็นที่ป้องกัน ข้าศึกทางด้านทิศตะวันตกได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้แล้ว พระญาสามฝั่งแกนเมื่อไม่พำนักอยู่ในเมืองเชียงใหม่ก็มักใช้เวียงเจ็ดลินเป็นที่พำนักอยู่เสมอจนสิ้นรัชกาล

นอกจากนี้แล้ว มีสิ่งที่น่าสนใจคือ กลางเวียงเชียงใหม่มีวัดแห่งหนึ่งชื่อ “วัดเจ็ดลิน” ตั้งอยู่ถนนพระปกเกล้า ตำบลพระสิงห์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ เคยเป็นวัดร้างมานานมาก เพิ่งได้รับการยกขึ้นเป็นวัดที่มีพระสงฆ์จำพรรษาได้ไม่นาน พบหลักฐานจากตํานานพื้นเมืองเชียงใหม่กล่าวถึงท้าวแม่กุ (พ.ศ. 2094–2101) ครั้งที่ทรงประกอบพิธีราชาภิเษกขึ้นครองเมืองเชียงใหม่ ได้เสด็จไปสรงน้ำพระที่ “วัดเจ็ดลินคํา” และต่อมาสมัยพระเจ้าอินทวิชยานนท์ (พ.ศ. 2416–2440) ปรากฏชื่อวัดว่า “เจ็ดลิน” (ไม่มี “คำ”) ซึ่งความสัมพันธ์ระหว่าง “เวียงเจ็ดลิน” กับ “วัดเจ็ดลิน” นี้จากการศึกษายังไม่พบข้อมูลว่ามีความเกี่ยวข้องกันอย่างไร

เวียงเจ็ดลินกับหลักฐานด้านโบราณคดีของกรมศิลปากร

จากข้อมูลของคุณไกรสิน อุ่นใจจินต์ นักโบราณคดี อดีตผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ 7 เชียงใหม่ เห็นว่า ขอบเขตของเวียงเจ็ดลิน น่าจะกว้างใหญ่ไพศาลเกินกว่าแค่ผังเมืองวงกลมบริเวณตีนดอยสุเทพเท่านั้น กล่าวคือควรศึกษาไปถึงซากโบราณสถานที่ตั้งอยู่บนดอยปุย ณ จุดที่เรียกว่า “สันกู่” ประกอบกันด้วย เนื่องจากบริเวณนี้เป็นถิ่นอาศัยของชาวลัวะ จากการขุดค้นทางโบราณคดีเมื่อปี 2541 ได้พบหลักฐานรุ่นเก่าจำนวนมากในสมัยหริภุญไชย ที่น่าจะมีความร่วมสมัยกับยุคฤๅษี หรือยุคขุนหลวงวิรังคะ

นอกจากนี้แล้ว ยังมีการขุดค้นและขุดแต่งทางโบราณคดีอีกครั้งระหว่างปี 2551-2552 ที่วัดร้างสองแห่งที่อยู่บนภูเขารอบๆ เวียงเจ็ดลิน ได้แก่ วัดร้างหมูบุ่น กับวัดร้างกู่ดินขาว คุณไกรสิน ได้ค้นพบโบราณวัตถุจำนวนหนึ่งที่อาจเก่าถึงสมัยหริภุญไชย แต่โดยมากมีอายุในสมัยล้านนา ทำให้ได้ข้อสรุปว่า เวียงเจ็ดลินน่าจะมีความเก่าแก่ถึงสมัยหริภุญไชยจริง และยังคงใช้สอยสืบมาจนถึงสมัยล้านนา กระทั่งค่อยๆ ร้างไป

การลงพื้นที่สำรวจเวียงเจ็ดลินของผู้เขียน

          ดิฉันได้มีโอกาสลงพื้นที่สำรวจเมืองโบราณเวียงเจ็ดลินอย่างละเอียดเมื่อเดือนเมษายน 2555 โดยเริ่มจากการสำรวจจุดที่เป็น “ตาน้ำ” ตั้งอยู่กึ่งกลางเวียงเจ็ดลิน ปัจจุบันเป็นพื้นที่สถานที่ราชการ สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดเชียงใหม่ ตาน้ำคือจุดที่มีน้ำผุด หรือน้ำจำ มีการสร้างอาคารคลุมไว้ จากจุดตาน้ำนี้เมื่อวัดรัศมีโดยรอบพบว่ามีความยาวประมาณ 900 กว่าเมตร พื้นที่ของเวียงเจ็ดลินครอบคลุมสถานที่ราชการและสถานศึกษาหลายแห่ง ได้แก่ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล วิทยาเขตพายัพ (มทร.) สวนสัตว์เชียงใหม่ สวนรุกขชาติ น้ำตกห้วยแก้ว ฯลฯ 

          เวียงเจ็ดลินมีความพิเศษกว่าเวียงโบราณอื่นใดทั้งหมด เนื่องจากตั้งอยู่บนพื้นที่ลาดเอียงจากเชิงเขาสู่ที่ราบ มิได้เป็นเวียงบนพื้นที่ราบเสมอกัน เมื่อดิฉันและคณะเดินสำรวจขอบเขตของเวียงเจ็ดลิน จำเป็นต้องใช้เวลาหลายวัน บางช่วงบางตอนต้องปีนเขา ปีนกำแพงหิน ตอนบนสุดของเวียงเจ็ดลินในเขตอุทยานน้ำตกห้วยแก้วนั้น เต็มไปด้วยกองหินที่ก่อขึ้นในวัฒนธรรมลัวะ

หลักฐานอันซีนที่รอการพิสูจน์

คุณพูนทรัพย์ วงศากุศลปักษ์​ นักวิชาการอิสระได้แจ้งแก่กรมศิลปากรว่า เขาได้พบโบราณวัตถุแปลกประหลาดจำนวน 2 ชิ้นในบริเวณเวียงเจ็ดลิน ได้แก่ 1. แผ่นดินเหนียวทรงกลม มีตัวอักษร 2. แผ่นคันฉ่องสำริดคล้ายรูป 12 นักษัตรแบบจีน ปัญหาก็คือ วัตถุสองชิ้นเป็นการอ้างโดยบุคคล สามารถเคลื่อนย้ายไปมาได้ ไม่ใช่สิ่งที่พบจากหลุมขุดค้นโดยนักโบราณคดี 

อย่างไรก็ดี แผ่นดินเหนียวชิ้นดังกล่าว ดิฉันได้ส่งภาพถ่ายให้ ผศ.พงศ์เกษม สนธิไทย นักจารึกวิทยาช่วยพิจารณาว่าเก่าหรือใหม่อย่างใหม่ อาจารย์พงศ์เกษมช่วยอ่านตีความและกำหนดอายุว่า น่าจะมีอายุประมาณพุทธศตวรรษที่ 17-18 ร่วมสมัยกับหริภุญไชยตอนปลาย และตัวอักขระที่เขียนนั้นเป็นปฏิทินบันทึกฤกษ์ยามในการเกษตร

กล่าวโดยสรุป การศึกษาเกี่ยวกับเวียงเจ็ดลิน ควรมีการหยิบมาปัดฝุ่นอีกครั้งและควรศึกษาให้รอบด้าน อีกทั้งควรทำควบคู่ไปกับแผนบริหารจัดการอาคารสิ่งก่อสร้างต่างๆ ที่รุกล้ำอยู่ในตัวเวียงโบราณด้วย

1

ข่าวอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

มอบรถ Hyundai CRETA ALPHA สีดำ

เอชดีเจมอเตอร์ ฮุนไดเชียงใหม่ โดยที่ปรึกษาการขาย ร่วมแสดงความยินดีพร้อมส่งมอบรถใหม่  ให้กับ คุณศราวุธ บัวล้อม Hyundai CRETA ALPHA สีดำ  ขอขอบคุณที่ให้เกียรติมาเป็นครอบครัวฮุนได สอบถามรายละเอ...


  • ข่าวยานยนต์
  • |
  • 22 พ.ย. 2568, 14:29
  • |
  • 154

ปลายปีนี้พบงานแสดงรถยนต์ทั้งที่เซ็นทรัลเชียงใหม่เฟสและที่แอร์พอร์ต

งานแรก 18-24 พฤศจิกายน 2568 งานนี้จัดโดย MG ไทยแลนด์งาน MG City DRIVEมีรถยนต์ MG มาให้แฟนๆ ได้ทดลองขับครบทุกรุ่นใครอยากได้รุ่นไหนก็แจ้งทีมงานขอทดลองขับได้เลยงานนี้สำนักงานใหญ่มาเองเพื่อยอดขายให้ได้สูง...


  • ข่าวยานยนต์
  • |
  • 20 พ.ย. 2568, 19:05
  • |
  • 340

มิตซูแสงชัยจัดหนัก งาน Exclusive Test Drive "XForce Garden" มหาสุขฟาร์ม Mahasuk Farm

พิเศษเฉพาะงาน Exclusive Test Drive "XForce Garden"• จองในงานทุกรุ่น รับทันที กระเป๋า Gym bag ของแท้ จากแบรนด์ Mitsubishi• รับข้อเสนอพิเศษแคมเปญเดียวกับ Motor Expo 2025แล้วพบกันได้ที่งาน Exclusive Test...


  • ข่าวยานยนต์
  • |
  • 18 พ.ย. 2568, 19:36
  • |
  • 146

HyundHyundai Deal SEOUL Good with The all-new SANTA FE Hybrid ​ Motor Expo Campaign ที่สุด...

HyundHyundai Deal SEOUL Good with The all-new SANTA FE Hybrid ​Motor Expo Campaign ที่สุดแห่งดีล ฟีลเกาหลีOpen for More Utility อีกขั้นของความสะดวกสบายไปกับ The all-new SANTA FE Hybrid พร้อมที่วางขวดน...


  • ข่าวยานยนต์
  • |
  • 15 พ.ย. 2568, 12:16
  • |
  • 425

ส่งท้ายปี...ด้วยโปรแรงจัดหนัก‼️ กับโตโยต้าล้านนา ที่งาน 𝐌𝐎𝐓𝐎𝐑 𝐒𝐀𝐋𝐄 𝐎𝐅 𝐓𝐇𝐄 𝐘𝐄𝐀𝐑 โปรแรง ยิ่ง...

ส่งท้ายปี...ด้วยโปรแรงจัดหนัก‼️ กับโตโยต้าล้านนา ที่งาน𝐌𝐎𝐓𝐎𝐑 𝐒𝐀𝐋𝐄 𝐎𝐅 𝐓𝐇𝐄 𝐘𝐄𝐀𝐑 โปรแรง ยิ่งใหญ่! ส่งท้ายปี🚗🔥📅 วันที่ 31 ต.ค. - 9 พ.ย. 2568 📍 ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ จ.เชียงใหม่🎉จองรถโตโยต้...


  • ข่าวยานยนต์
  • |
  • 31 ต.ค. 2568, 13:44
  • |
  • 424

ONIQ 5 รถไฟฟ้าพรีเมียม 100% จากฮุนได นำเข้าทั้งคันจากเกาหลี…พร้อมครบทุกความสมบูรณ์แบบ จบทุ...

 ONIQ 5 รถไฟฟ้าพรีเมียม 100% จากฮุนได นำเข้าทั้งคันจากเกาหลี…พร้อมครบทุกความสมบูรณ์แบบ จบทุกความต้องการในรถไฟฟ้าที่คุณมองหา ✨ พลังขับเคลื่อนจากมอเตอร์ไฟฟ้า 217 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร...


  • ข่าวยานยนต์
  • |
  • 26 ต.ค. 2568, 14:08
  • |
  • 1,205
Sytiq Company

ออกแบบพัฒนาโปรแกรมและแอพลิเคชั่น

โดยบริษัทไซทิค ติดต่อ:0819507128

Sytiq Company

ออกแบบและติดตั้ง Home Automation

โดยบริษัทไซทิค ติดต่อ:0819507128