ที่โรงแรมแกรนด์ชัยพฤกษ์ ศูนย์เสริมสร้างแและพัฒนาขีดความสามารถกองบิน 41 อ.เมืองจ.เชียงใหม่ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม (DIPROM) ร่วมกับ กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 ดำเนินโครงการ “สร้างโอกาสใหม่อุตสาหกรรมศักยภาพรองรับสังคมผู้สูงอายุ" (Senior-Friendly Industry) ซึ่งโครงการดังกล่าวส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาเศรษฐกิจใหม่กับภาคอุตสาหกรรมที่ตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มลูกค้าผู้สูงอายุ ผ่านโมเดลการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมศักยภาพรองรับสังคมผู้สูงอายุ 4 กลุ่ม คือ 1) เปิดโอกาสให้ผู้สูงอายุมีส่วนร่วม 2) สร้างโมเดลธุรกิจรองรับสังคมผู้สูงอายุ 3) พัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อผู้สูงอายุ และ 4) เชื่อมโยงการตลาด/การท่องเที่ยว ที่มุ่งเน้นการใช้เทคโนโลยี นวัตกรรม และความคิดสร้างสรรค์ พร้อม การสร้างโมเดลธุรกิจรองรับสังคมผู้สูงอายุและเชื่อมโยงสินค้าและบริการสู่ตลาดผู้สูงอายุ โดยตั้งเป้า เพิ่มขีดความสามารถผู้ประกอบการในพื้นที่ภาคเหนือตอนบนกว่า 125 กิจการ วิสาหกิจชุมชนกว่า 10 กลุ่ม ผู้ประกอบการและบุคลากรภาคอุตสาหกรรม 80 คน ให้มีศักยภาพรองรับสังคมผู้สูงอายุ อีกทั้งยังสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์สำหรับผู้สูงอายุประเภทต่างๆ ได้ถึง 135 ผลิตภัณฑ์ ซึ่งคาดว่าจะสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ (Economic Impact) ในพื้นที่ได้มากว่า 135 ล้านบาท โดยภายในงานมีการโชว์สินค้าต้นแบบที่ใช้ภูมิปัญญาพื้นบ้านพัฒนาต่อยอด
นายสิทธิรงณ์ เร่งเงียบ ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 1 เปิดเผยว่า กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม (DIPROM) โดย ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 1 และ ศูนย์วิจัยและพัฒนาวัสดุอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ ร่วมกับ กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 ได้เล็งเห็นโอกาสจากการเปลี่ยนแปลงสู่สังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ การขยายตัวของตลาดผู้สูงอายุ และศักยภาพของกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 จึงพัฒนาโมเดลการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมศักยภาพรองรับสังคมผู้สูงอายุขึ้น โดยได้ดำเนินกิจกรรม “สร้างโอกาสใหม่อุตสาหกรรมศักยภาพรองรับสังคมผู้สูงอายุ” (Senior-Friendly Industry) ภายใต้โครงการพัฒนาอุตสาหกรรมด้วยนวัตกรรมเพื่อส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจใหม่ ที่วางกรอบการยกระดับอุตสาหกรรมศักยภาพของกลุ่มจังหวัด ภาคเกษตรอุตสาหกรรม อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ และอุตสาหกรรมการแพทย์และสุขภาพ ที่เชื่อมโยงกับสังคมผู้สูงอายุ ตั้งแต่การเปิดโอกาสให้ผู้สูงอายุมีส่วนร่วมด้วยการนำภูมิปัญญาไปใช้ในการพัฒนาวิสาหกิจ การขยายโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ด้วยการสร้างโมเดลธุรกิจรองรับสังคมผู้สูงอายุ การสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์เพื่อผู้สูงอายุ ที่ช่วยสร้างเสริมสุขภาพและเอื้ออำนวยต่อการดำเนินชีวิตของผู้สูงอายุด้วยเทคโนโลยี นวัตกรรม และความคิดสร้างสรรค์ ตามแนวทางเศรษฐกิจสูงวัย (Silver Economy) ตลอดจนการสร้างโอกาสทางการตลาดสำหรับสินค้า และบริการสู่ตลาดผู้สูงอายุ ซึ่งนอกจากจะเป็นการเพิ่มขีดความสามารถและมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจให้กับทั้ง 3 อุตสาหกรรมศักยภาพของกลุ่มจังหวัดแล้ว ยังมีส่วนช่วยให้ผู้สูงอายุมีสุขภาวะที่ดี สามารถดำเนินชีวิตได้อย่างปลอดภัย เป็นอิสระและลดการพึ่งพาผู้อื่น ซึ่งถือเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตและสร้างคุณค่าให้กับผู้สูงอายุอีกด้วย
จากการพัฒนาโมลเดลการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมศักยภาพรองรับสังคมผู้สูงอายุขึ้นมา จึงเกิดกิจกรรมหลักสร้างโอกาสใหม่อุตสาหกรรมศักยภาพรองรับสังคมผู้สูงอายุ (Senior-Friendly Industry) ดังนี้ 1) เปิดโอกาสให้ผู้สูงอายุมีส่วนร่วม : กิจกรรมที่ 1 ยกระดับวิสาหกิจชุมชนด้วยภูมิปัญญาคนรุ่นใหญ่ สู่ คนรุ่นใหม่ (Yold for Youth) 2) สร้างโมเดลธุรกิจรอบรับสังคมผู้สูงอายุ : กิจกรรมที่ 2 ปั้นผู้นำการเปลี่ยนแปลงรองรับสังคมผู้สูงอายุ (Aging Society Changemaker) 3) พัฒนาผลิตภัณฑ์ผู้สูงอายุ : กิจกรรมที่ 3 พัฒนาผลิตภัณฑอาหารสำหรับผู้สูงอายุ (Senior Food), กิจกรรมที่ 4 พัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงามสำหรับผู้สูงอายุ (Senior CARE), กิจกรรมที่ 5 พัฒนาผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์และแฟชั่นสำหรับผู้สูงอายุ (Senior LIFE), กิจกรรมที่ 6 พัฒนาบรรจุภัณฑ์สำหรับผู้สูงอายุ(Senior PACK), กิจกรรมที่ 7 พัฒนาเทคโนโลยีสุขภาพอัจฉริยะสำหรับผู้สูงอายุ (Senior TECH), กิจกรรมที่ 8 พัฒนาวัสดุอุตสาหกรรมสร้างสรรค์เพื่อที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ (Senior HOME) 4) เชื่อมโยงการตลาดผู้สูงอายุ : กิจกรรมที่ 9 สร้างโอกาสสินค้าและบริการสู่ตลาดผู้สูงอายุ (Senior Market Connect)
นางสาวศิริณเรจณ์ วินัยพานิชชา ผู้จัดการโครงการ กิจกรรมยกระดับวิสาหกิจชุมชนด้วยภูมิปัญญา คนรุ่นใหญ่ สู่ คนรุ่นใหม่ (Yold for Youth) กล่าวถึง กิจกรรม "ยกระดับวิสาหกิจชุมชนด้วยภูมิปัญญาคนรุ่นใหญ่ สู่คนรุ่นใหม่ (Yold for Youth)" ซึ่งเป็น 1 ใน 9 กิจกรรมสร้างโอกาสใหม่อุตสาหกรรมศักยภาพรองรับสังคมผู้สูงอายุ” โดยกิจกรรมดังกล่าวมุ่งเน้นการเชื่อมโยงความรู้และประสบการณ์ของคนรุ่นใหญ่ (Young Old หรือ Yold) เข้ากับความคิดสร้างสรรค์ของคนรุ่นใหม่ (Youth) เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงในระดับวิสาหกิจ โดยภายใต้กิจกรรม ได้มีการเชิญปราชญ์ชุมชนมาถ่ายทอดภูมิปัญญาให้กับคนรุ่นใหม่ที่มีไอเดียและความต้องการอยากจะพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีอัตลักษณ์โดดเด่นและตอบโจทย์ตลาดยุคใหม่ ภายใต้ Concept “แสงสว่างแห่งภูมิปัญญา” โดยมองว่า ภูมิปัญญาท้องถิ่น และทุนทางวัฒนธรรม ของกลุ่มผู้สูงอายุเป็นทรัพยากรที่ ทรงคุณค่า ซึ่งสามารถนำมาส่งต่อให้กับ คนรุ่นใหม่ เพื่อสร้างธุรกิจชุมชนให้อย่างยั่งยืนได้ภูมิปัญญาท้องถิ่น และทุนทางวัฒนธรรมของกลุ่มผู้สูงอายุ เป็นทรัพยากรที่ “ทรงคุณค่า” ซึ่งสามารถนํามาส่งต่อให้กับคนรุ่นใหม่ได้ โดยการถ่ายทอดความรู้และการวางแผนพัฒนาผลิตภัณฑ์ร่วมกัน ระหว่างคนรุ่นใหญ่ กับคนรุ่นใหม่ เพื่อสร้างธุรกิจชุมชนให้อย่างยั่งยืนได้ จากการเข้าร่วมกิจกรรม (Yold for Youth) ตั้งเป้าการผลักดันให้เกิดการสืบสานภูมิปัญญา จำนวน 10 กลุ่มวิสาหกิจชุมชน และพัฒนาผลิตภัณฑ์ 10 ผลิตภัณฑ์ ซึ่งคาดว่ากิจกรรมนี้จะสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ (Economic Impact) ได้มากกว่า 6.6 ล้านบาท
นายวีรพงศ์ ฤทธิ์รอด รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ในฐานะของกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 กล่าวถึงสถานการณ์เกี่ยวกับการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุของภาคเหนือ ทิศทาง และเป้าหมาย หรือแนวทางการพัฒนาภาคเหนือให้รองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมศักยภาพภาคเหนือ ปัจจุบันประเทศไทยได้เปลี่ยนแปลงสู่สังคมผู้สูงอายุ (Aging Society) ตั้งแต่ปี 2548 โดยคาดการณ์ว่าประเทศไทยจะก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุระดับสุดยอด (Super-aged Society) ในปี 2572 โดยในปี 2567 ประเทศไทยมีผู้สูงอายุจำนวน 14 ล้านคน จากประชากรทั้งหมด 70 ล้านคน ซึ่งในพื้นที่ภาคเหนือมีสัดส่วนประชากรผู้สูงอายุสูงสุด คิดเป็นร้อยละ 26.2 ทั้งนี้เมื่อจำนวนผู้สูงอายุเพิ่มขึ้น จึงทำให้มูลค่าการใช้จ่ายของผู้สูงอายุไทยสูงขึ้นตามด้วย โดยในปี 2567 มีมูลค่าประมาณ 1.7 ล้านล้านบาท ซึ่งขยายตัวจากปีก่อน 3.8% และคาดว่ามูลค่าการใช้จ่ายของผู้สูงอายุไทยจะเพิ่มขึ้นเป็น 2.2 ล้านล้านบาท ในปี 2572 ที่ไทยเข้าสู่สังคมสูงวัยระดับสุดยอด
การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรของไทยที่จะกลายเป็นสังคมสูงวัยระดับสุดยอด (Super-aged Society) ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้ อาจทำให้ธุรกิจสินค้าและบริการที่เกี่ยวข้องกับผู้สูงอายุได้ประโยชน์ เช่น ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ธุรกิจดูแลสุขภาพต่างๆ รวมถึงธุรกิจผลิตสินค้า บริการที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้สูงอายุ แต่ในขณะเดียวกัน ก็มีบางธุรกิจที่จะได้รับผลกระทบเช่นกัน โดยเฉพาะธุรกิจที่มีการใช้แรงงานเข้มข้น ไปจนถึงผู้ประกอบการ SMEs ที่ต้องปรับตัวให้สอดรับกับตลาดสังคมสูงวัยยิ่งขึ้น ดังนั้นเพื่อเป็นการรับมือกับผลกระทบในปัจจุบันและที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ยุทธศาสตร์ชาติ พ.ศ. 2561-2580 จึงได้มุ่งเน้นให้ความสำคัญกับการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ โดยเฉพาะช่วงวัยสูงอายุ ด้วยการส่งเสริมให้ผู้สูงอายุเป็นพลังในการขับเคลื่อนประเทศ ซึ่งสอดรับกับเป้าหมายและแนวทางการพัฒนาภาคเหนือ พ.ศ. 2566-2570 ที่มุ่งพัฒนาผู้สูงอายุสู่การเป็นผู้สูงอายุที่มีศักยภาพ (Active Aging)
นายวีรพงศ์ กล่าวต่อไปอีกว่า การจัดงานครั้งนี้ ถือเป็นการประชาสัมพันธ์กิจกรรมต่างๆ เพื่อเสริมสร้างทักษะผู้ประกอบการและบุคลากรภาคอุตสาหกรรม ยกระดับอุตสาหกรรมศักยภาพด้วยการสร้างมูลค่าเพิ่มผลิตภัณฑ์ ขยายโอกาสทางธุรกิจด้วยการสร้างโมเดลธุรกิจรองรับสังคมผู้สูงอายุ ตลอดจนเชื่อมโยงสินค้าและบริการสู่ตลาดผู้สูงอายุ จึงมอบให้ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 1 และศูนย์วิจัยและพัฒนาวัสดุอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ดำเนินโครงการสร้างโอกาสใหม่อุตสาหกรรมศักยภาพรองรับสังคมผู้สูงอายุ (Senior-Friendly Industry) ซึ่งโครงการนี้จะช่วยส่งเสริมและพัฒนา วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) จำนวน 125 กิจการ วิสาหกิจชุมชน จำนวน 10 กลุ่ม ผู้ประกอบการและบุคลากรภาคอุตสาหกรรม จำนวน 80 คน ให้มีศักยภาพรองรับสังคมผู้สูงอายุ อีกทั้งสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์สำหรับผู้สูงอายุประเภทต่างๆ ได้ถึง 135 ผลิตภัณฑ์ และคาดว่าจะเกิดมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ (Economic Impact) จำนวน 135,084,000 บาท เกิดความคุ้มค่า 17.79 เท่า ของงบประมาณทั้งหมด